สิงห์บุรีเผยผู้ป่วยโควิด 51 ปี สิงห์บุรี พบผู้สัมผัสใกล้ชิด 4 ราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เผยเคสโควิด 51 ปีเดินทางสายการบินเดียวกับผู้ป่วยโควิดลอบเข้าปท. ส่วนสาเหตุติดจากไหนขอรอสอบสวนเพิ่ม ล่าสุดพบผู้สัมผัสใกล้ชิด  4 ราย ได้ดำเนินการกักตัวอยู่แล้ว

กรณีพบผู้ติดเชื้อไร้สโคโรนา 2019 รายแรกของจังหวัดสิงห์บุรี โดยผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019รายนี้เป็นเพศหญิง อายุ 51 ปี และปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เวลา 14.00 น. ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ว่ามีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 2 ราย จาก โรงพยาบาลบางระจัน โดยรายที่ 1 เพศหญิง อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดอ่างทอง และรายที่ 2 เพศหญิงอายุ 51 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดสิงห์บุรี โดยทั้ง 2 ราย ได้รับทราบข่าวการเดินทางโดยเครื่องบินของผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโน 2019 จากจังหวัดเชียงราย ซึ่งทั้ง 2 รายเดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกัน

ประกอบกับเริ่มมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว จึงเข้ารับการตรวจที่ โรงพยาบาลบางระจัน ทั้งนี้โรงพยาบาลบางระจัน ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และประสานทีมสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสร่วมบ้านและในชุมชน โดยในเวลาประมาณ 22.00น. วันที่ 3 ธันวาคม  ทราบรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการว่าผู้ป่วยรายที่ 1 ผลตรวจ ปกติ ไม่พบสารตั้งต้นทางพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 ผลตรวจพบสารตั้งตันทางพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี

ต่อมาเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ธันวาคม นพ.จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรีเพื่อสั่งการ และเตรียมการรองรับสถานการณ์ พร้อมกันนี้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค, สำนักงานควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสิห์บุรี ได้ลงพื้นที่ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคในทันที ซึ่งเบื้องต้น ผู้สัมผัสใกล้ชิด จำนวน 4 ราย ได้ดำเนินการกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลสิงห์บุรีจำนวน  3 ราย และโรงพยาบาลค่ายบางระจัน จำนวน 1 ราย ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข และรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ และปฏิบัติตัวตามมาตรการ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ ลงทะเบียนไทยชนะทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ส่วนรายละเอียดต่างๆขอให้รอทางกรมควบคุมโรคเป็นผู้แถลงข่าวต่อไป