ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค เผยไทม์ไลน์พยาบาลติดโควิด19 รายที่ 6 ชี้ชัดการแพร่กระจายเชื้อไปผู้อื่นมีโอกาสน้อย ขณะที่คอนโดฯที่พักผู้ป่วยรายดังกล่าว พบอยู่แค่ช่วงเวลาสั้น ระหว่างรอผลตรวจ พร้อมเผยผลสอบสวนโรคไม่พบใครเสี่ยงติดเชื้อ

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิชาญ ปาวัน นายแพทย์เชี่ยวชาญ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มบุคลากรการแพทย์ติดโควิด -19 รวม 6 ราย ว่า จากการสอบสวนโรคโดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร ได้ข้อสรุปสอดคล้องกันว่ากรณีเป็นการติดเชื้อในสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) ไม่ใช่การติดดชื้อในโรงพยาบาล โดยการติดเชื้อเป็นลักษณะติดกันเองภายในกลุ่มเนื่องจากมีการใช้ชีวิตร่วมกัน รับประทานอาหารและนอนห้องพักร่วมกันจึงเป็นเหตุให้เกิดการติดเชื้อเฉพาะในกลุ่มนี้และยังอยู่ในวงจำกัดยังไม่มีการกระจายไปยังผู้อื่นแต่อย่างใด ขณะนี้ผลการหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 51 ราย 2 ครั้งพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย คือรายที่ 6 ส่วนที่เหลือไม่พบติดเชื้อ และยังอยู่ในระบบการดูแล กักตัวให้ครบ 14 วัน และจะมีการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 อีกครั้งตามมาตรฐาน หากมีความก้าวหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป

ในส่วนของผู้ป่วยรายที่ 6 ตามที่มีการรายงานไทม์ไลน์เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ชี้ชัดว่าการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นนั้นมีโอกาสน้อย เพราะทันทีที่มีการตรวจเจอเชื้อก็นำเข้าสู่การกักตัวที่โรงพยาบาล ส่วนข้อกังวลเรื่องคอนโดมิเนียมที่ผู้ป่วยพักอาศัยนั้น จากการสอบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยรายนี้อยู่ในคอนโดฯ ในช่วงสั้นๆ ระหว่างที่รอผลการตรวจแล็บ และทันทีที่ทราบผลการตรวจก็นำเข้าสู่การรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที ทั้งนี้และตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยละเอียดไม่พบผู้ใดมีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ อย่างไรก็ตามจะมีการเฝ้าระวังและสอบสวนโรคเพิ่มเติมต่อไป

"ขณะที่ผู้ป่วยรายที่ 6 พักอาศัยในคอนโดฯ ตอนนั้นยังจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงผลการตรวจแล็บครั้งแรกก็ยังไม่พบการติดเชื้อฯ และยังไม่ใช่ผู้ป่วย ซึ่งพอตรวจสอบโดยละเอียดไม่ได้ไปคลุกคลีกับใครที่คอนโดฯ จึงไม่มีใครมีความเสี่ยงเพิ่มเติม ในช่วงระยะเวลาที่อยู่คอนโดก็อยู่แค่ช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามทางคอนโดฯ มีการทำความสะอาดลิฟท์ โถงทางเดิน ห้องของผู้ที่ติดเชื้อเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นขอยืนยันว่าพื้นที่คอนโดที่เป็นข่าวตรวจสอบโดยละเอียดยังไม่มีรายงานพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกักตัวผู้ที่พักอาศัยในคอนโดฯ สามารถไปทำงานใช้ชีวิตได้ตามปกติ" นพ.วิชาญ กล่าว

ขอบคุณภาพไทม์ไลน์จากกระทรวงสาธารณสุข