ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด จ.สมุทรสาคร ล่าสุด 821 ราย รอผลอีก 2,600 ราย ย้ำตัวเลขโควิดต่างด้าวเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีทางระบาดวิทยา เตรียมถอดรหัสพันธุกรรมโควิดต่างด้าว เชื่อมโยงหาเชื้อที่พบเป็นการเชื่อมโยงพื้นที่ใด

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่า สำหรับรายงานความคืบหน้าผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 21 ธ.ค. พบ 821 ราย โดยผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ รพ.เองและติดตามผู้สัมผัส 33 ราย อย่างไรก็ตาม ตรวจทั้งหมด 4,688 ราย โดยผลออกมาแล้ว 1,861 ราย และยังเหลือรออีก 2,600 ราย ซึ่งในช่วงบ่ายอาจจะมีการปรับตัวเลขเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ขออย่ากังวลกระบวนการตัวเลข เพราะเกิดจากการค้นหาเพิ่มเติม และในทางระบาดถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะมีการเฝ้าระวังและค้นพบผู้ติดเชื้อเพื่อทำการควบคุมโรคและรักษาต่อไป

นพ.วิชาญ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ภาพรวมการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สมุทรสาคร จากการดูแผนที่การระบาดและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นขณะนี้เป็นที่ค่อนข้างชัดเจนว่าจุดตั้งต้นของการระบาดอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง ซึ่งเป็นตลาดกุ้งเลี้ยง ไม่ใช่อาหารทะเลทั้งหมด หลังจากนั้นน่าจะมีการระบาดเป็นวงเฉพาะในกลุ่มแรงงานเมียนมา ซึ่งสมมติฐานสาเหตุการระบาดทางระบาดวิทยา โดยผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย ได้ให้ความเห็นค่อนข้างจะสอดคล้องกันว่าน่าจะมีจุดเริ่มต้นมาจากแรงงานเมียนมาเนื่องจากการค้นหาหรือการตรวจเช็คพบว่ามีการติดเชื้อมากกว่า 90% ในกลุ่มแรงงานเมียนมา จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวมาจากต่างประเทศในช่วงที่มีการระบาด และเข้าสู่จังหวัดสมุทรสาคร และเพื่อเป็นการพิสูจน์สมมติฐานดังกล่าว จึงอยู่ระหว่างถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อดูความเชื่อมโยงว่าเชื้อที่พบนั้นเป็นการเชื่อมโยงพื้นที่ใด

นพ.วิชาญ กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดการแพร่ระบาดวงกว้างในกลุ่มแรงงานเมียนมานั้นเพราะพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่นในพื้นที่พักอาศัย มีพฤติกรรมติดต่อระหว่างวันโดยไม่สวมหน้ากาก อนามัย ไม่ล้างมือ จึงน่าจะเป็นสาเหตุหลักในการแพร่ระบาดในวงกว้างในกลุ่มนี้ ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างค้นหาคนเสี่ยงในกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้งในจ.สมุทรสาคร และพื้นที่ต่างๆ และอาจจะทำให้เจอตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ขออย่าตกใจเพราะสะท้อนถึงมาตรการควบคุมโรคยังทำงานอยู่ ทั้งนี้ เมื่อเจอรายงานเคสตามที่ต่างๆ ขอให้ตั้งสติ ประเมินความเสี่ยงตัวเอง และสนใจมาตรการป้องกันตัวเองคือสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ การรักษาระยะห่าง ไม่เข้าสถานที่แออัด และสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการทางเดินหายใจ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ขอให้สวมหน้ากากอนามัยและไปพบแพทย์ ยกการ์ดให้สูงเข้าไว้

เมื่อถามถึงการคาดการณ์ระยะเวลาที่ใช้ในการควบคุมการระบาดในรอบนี้ นพ.วิชาญ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจเชิงรุกใน 7 พื้นที่ ซึ่งครอบคลุมประชากรประมาณ 10,300 ราย และข้อมูลจากจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าว ผลน่าจะออกในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการระบาดว่าจะเป็นไปอีกนานแค่ไหน หากในจำนวนนี้ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมก็จะชัดว่าตีวงการระบาดอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ดังนั้นระยะเวลาที่จะใช้ในการควบคุมโรคก็จะเหมือนกับที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ แต่หากในกลุ่มที่เราค้นหาเชิงรุกพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ระยะเวลาที่จะใช้ในการควบคุมโรคก็จะขยายออกไปมากกว่า 4 สัปดาห์

เมื่อถามถึงลักษณะการพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวของไทย กับสิงคโปร์เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร นพ.วิชาญ กล่าวว่า มีบริบทแตกต่างกันมาก โดยแรงงานต่างด้าวในสิงคโปร์จะเป็นบุคคลเดี่ยว ไม่มีครอบครัว แต่แรงงานต่างด้าวในประเทศไทยจะอยู่กันใกล้ชิดเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง จึงเปรียบเทียบกันได้ยาก แต่สามารถนำมาตรการควบคุมป้องกันโรคมาปรับใช้กันได้ โดยหลักการตอนนี้เราไม่สามารถนำคนติดเชื้อแต่ไม่มีอาการทั้งหมดเข้ามารักษาที่รพ.ได้ ในทันที ดังนั้นจะตีวง และแยกเอาผู้ติดเชื้อมีอาการเข้ารักษาในรพ. ส่วนผู้ติดเชื้อไม่มีอาการให้อยู่ในจุดทีมอนิเตอร์ได้ ส่วนผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อก็แยะเพื่อสังเกตต่อไป เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพื้นที่ 7 จังหวัดที่มีการตรวจเชิงรุก 10,300 รายคือ 7 จังหวัดที่เป็นลูกค้าตลาดกลางกุ้ง คือ 1.ตลาดทะเลไทย จ.สุพรรณบุรี 2. ตลาดแม่พวง แม่ค้าอาหารทะเลและผู้สงสัยหรือมีอาการ จ.สมุทรสงคราม 3.หอพักบริเวณตลาดไทยยูเนี่ยน จ.สมุทรสาคร และประจวบคีรีขันธ์ 4.บ้านเอื้ออาทรท่าจีน จ.ราชบุรี 5.ตลาดเคหะนาดี จ.กาญจนบุรี 6.ตลาดโกรกกราก จ.เพชรบุรี และ7. ตลาดนัดและหอพัก มหาชัยนิเวศ จ.นครปฐม และสมุทรสาคร