ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ จุฬาฯ แจงรายละเอียดถี่ยิบ 12 ข้อ การตรวจเลือดมาตรฐานหาผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 9 พร้อมเปิดค่าใช้จ่ายการตรวจวิธีมาตรฐาน ใช้เวลา 3 ชม. ราคา 1,000 ชุดใบยา 2 นาที ราคา 100-200บาท ตรวจหาเชื้อแผงยมูก ราคา 2,500 บาท

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟชบุ๊กธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุถึงผลการตรวจเชื้อโควิดด้วยการตรวจเลือดหาแอนติบอดีของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยด้วย วิธี ELISA ว่า

1-ผลในตารางทั้งหมดเป็น การตรวจเลือดมาตรฐานของเราด้วย ELISA และ ผลเป็น 100% คนไข้ทุกคน 97 คน เข้า รพ. ผลจะบวกหมดตั้งแต่วันแรก และบวก ในวันต่อมา ตามลำดับ เมื่อเอาตัวอย่างเลือดเหล่านี้ มาตรวจด้วย ชุดใบยา จะได้ผลบวกตามกัน

2- การตรวจเลือดมาตรฐาน เมื่อนำมาตรวจคนปกติ 200 ราย จะให้ผลลบหมด เมื่อเอาชุดใบยามาตรวจ จะมีผลบวก 3 %

3- การตรวจเลือดมาตรฐาน เมื่อนำมาตรวจเลือดคนติดเชื้ออื่นๆ 300 ราย เชื้อหวัดใหญ่ ไข้เลือดออก โคโรนาตัวอื่นๆที่ไม่ใช่โควิด-19 เป็นต้น จะได้ผลลบหมดเมื่อเอาใบยามาตรวจ จะได้ผลลบ เช่นกัน

4-ที่ตรงกันเช่นนั้น เพราะ ชุดตรวจใบยา กับการตรวจมาตรฐานมีตัวจับ ภูมิคุ้มกันในเลือดที่ฟ้องสภาวะการติดเชื้อตรงกัน คือ RBD

5- RBD นี้เองที่ใบยา เอาไปทำ วัคซีน และทดสอบในหนู ลิง สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ในระดับเดียวกับวัคซีน moderna ที่ทดสอบในหนู และลิงในไทย

6- ชุดตรวจมาตรฐาน ตรวจตรวจไปแล้วตั้งแต่มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 26/12/63 จำนวน 3,244 ราย ทั้งจากผู้ป่วยที่มีอาการและที่ไม่มีอาการโดยตรวจทั้งสามระดับคือ IgM , IgG และ neutralizing antibody และตรวจ นักมวยก่อนขึ้นชกเป็นจำนวน 1,109 ราย ไม่มีผลผิดพลาด ทั้งนี้ การที่มีผลบวกในเลือด อาจไม่มีเชื้อก็ได้ เพราะหายแล้ว แต่ถ้ามีเชื้อการตรวจมาตรฐานจะบวกด้วย ไม่ว่าไวรัสจะออกมาน้อยหรือมากก็ตาม

7- ชุดตรวจใบยา ไปคัดกรอง บุคลากร ในมหาวิทยาลัย และศูนย์สุขภาพ จุฬาฯ และในสถานพยาบาลต่างๆ หลายหมื่นราย และเป็นตัวกรอง ที่จะต้องตรวจเชื้อต่อหรือไม่ เมื่อเป็นบวกรวมทั้งงานสำคัญในพระราชพิธีต่างๆ

8- ชุดตรวจใบชา ตรวจคนในทำเนียบ 350 ราย มีบวก 9 ราย โดยตรวจด้วยวิธีมาตรฐานเป็นลบหมด แสดงว่า เป็นบวก เกิน = 2.57% และ แยงจมูกไม่มีเชื้อทั้งหมด

9-การใช้ตรวจด้วยวิธีมาตรฐาน ใช้เวลา 3 ชม ราตา 1,000 ชุดใบยา 2 นาที ราคา 100-200บาท ตรวจหาเชื้อแผงยมูก ราคา 2,500 บาท

ภาพจาก ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

10-การตรวจหาเชื้อต้องทำหลายครั้ง เพราะเชื้อไม่ออกมาจากแยงครั้งแรก ในทุกคน ต้องตรวจ อย่างน้อย 3 ครั้ง ใน 14 วัน การตรวจเลือด ไม่ว่ามาตรฐานหรือใบยา คือ 2 ครั้ง ที่วันแรก และ วันที่ 5-7 (เพราะ อาจติดเชื้อก่อนตรวจครั้งแรก 3-4 วันเลือดยังไม่บวก)

11- สำหรับคนมีอาการการตรวจเลือด จะบวกในวันที่มีอาการ 100% ขณะที่การหาเชื้อจากการแยงจะไม่แน่นอน และต้องแยงหาเชื้อวันต่อวันจนกว่าจะเจอ ในผู้มีอาการ

12- การตรวจเลือดใบยา ไม่เหมือนชุดตรวจอื่นๆในท้องตลาดที่ไม่มีความไวสูงสุด นั้นคือคนที่ติดเชิ้อ ตรวจไม่เจอได้

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มว่า  ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่าการตรวจคัดกรองที่แยกคนติดเชื้อ ออกจากประชาชนให้ได้เร็วที่สุด คือ การตรวจเลือดและทั้ง 12 ข้อบอกกระบวนการที่มาของการพัฒนาชุดตรวจโดยนำมาเทียบกับการตรวจมาตรฐานในเลือดของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่สภากาชาดไทย จุฬา ประการสำคัญก็คือราคาถูกกว่ากันมากเมื่อเทียบกับการหาเชื้อจากการแยงจมูกกล่าวคือ 100 ถึง 200 บาทต่อครั้งเทียบกับ 2,500 บาทต่อครั้ง และพิสูจน์แล้ว เช่นเมื่อนำไปตรวจที่ทำเนียบรัฐบาลจำนวน 350 คนแทนที่จะต้องแยงจมูกฆ่าเชื้อทั้ง 350 คนก็ตรวจเลือดปลายนิ้วก่อนและหลังจากนั้นทำการยืนยันต่อว่าติดเชื้อจริงหรือไม่โดยการตรวจมาตรฐานและพบว่า แม่นยำโดยได้ผลบวกเกินไป  350 ราย หรือ 2.57% เท่านั้น