ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยคลัสเตอร์ติดโควิดสถานบันเทิง ร้านอาหารหลายกรณี ติดเชื้อไปยังครอบครัว เตือนประชาชนช่วงสงกรานต์ วันหยุดยาวขอความระมัดระวังเพิ่ม โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ขอให้พนง.สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เข้มการป้องกันโรคเคร่งครัด

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 เม.ย.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 ในประเทศไทยและความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด19 ว่า ล่าสุดภาพรวมทั่วโลกพบ 10 ประเทศแรกที่มีการติดเชื้อสูงอยู่ คือ บราซิล อินเดีย สหรัฐ ฝรั่งเศส ตูรกี โปแลนด์ เยอรมนี อิตาลี ยูเครน และอาร์เจนตินา ส่วนของประเทศไทยวันนี้ติดเชื้อ 58 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบสถานที่เสี่ยง ซึ่งต้องเตือน เนื่องจากจะเข้าสู่สงกรานต์ที่เป็นวันหยุดยาว คือ สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์

ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรครายสัปดาห์ สรุปสถานการณ์สำคัญ 5 กรณี ดังนี้

1.ตลาดย่านบางแค พบการระบาดของโรคเชื่อมโยงไปหลายจังหวัด จากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และการค้นหาเชิงรุกต่อเนื่องจาก 2-3 สัปดาห์ก่อน

2.สถานบริการ ผับบาร์ ร้านอาหาร พบผู้ติดเชื้อที่มีไทม์ไลน์ไปทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับเพื่อน/ครอบครัว ย่านพระราม 9 ทองหล่อ พื้นที่ กทม. จ.ปทุมธานี และจ.นครปฐม

3.โรงงาน สถานประกอบการ ตลาด และชุมชน จ.สมุทรสาคร พบผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อต่อเนื่องจากจากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และการค้นหาเชิงรุก

4.สถานที่กักตัว ASQ พบผู้เดินทางและบุคลากรติดเชื้อ เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคตามมาตรฐานที่กำหนด

5.ห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบเจ้าหน้าที่และผู้ช่วยตักอาหารติดเชื้อเพิ่มเติม ซึ่งรอบสัปดาห์นี้ก็พบการติดเชื้อทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ช่วยตักอาหาร และผู้ต้องกักก็ติดเชื้อบ้าง

“กรณีการสอบสวนโรคที่เชื่อมโยงสถานบันเทิงในจ.ปทุมธานี และกทม. พบว่ามีนักศึกษาที่ไปใช้บริการในร้านไปทานข้าวที่ร้าน ก. และพบการแพร่เชื้อต่อไปยังร้าน ข.ในจ.ปทุมธานี โดยเชื่อมโยงการติดเชื้อหลายคน ทั้งนี้ จากร้าน ข. ก็ไปต่อร้าน ค. ย่านจตุจักร เป็นนักศึกษาเช่นกัน และยังพบว่านำเชื้อไปติดคนในครอบครัวด้วย เห็นได้ว่าการสอบสวนโรคครั้งนี้ต่อเนื่องไป 3 เจเนอเรชั่น กรณีนี้ร้านาอาหาร สถานบันเทิงจึงต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันเพิ่มมากขึ้น” นพ.จักรรัฐ กล่าว

 

นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุการณ์ที่จ.นครปฐม โดยผู้ป่วยเป็นนักร้องในสถานบันเทิง และติดเชื้อไปยังผู้ใช้บริการ และติดเชื้อไปยังครอบครัว ซึ่งกรณีนี้ติดเชื้อ 6 ราย ได้แก่ นักร้อง 3 ราย นักศึกษา 1 ราย พนักงานบริษัท 1 ราย และติดคนในครอบครัว 1 ราย

 

ส่วนกรณีเชื่อมโยงสถานบันเทิงย่านทองหล่อ มีผู้ติดเชื้อ 13 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่งมีผู้ติดเชื้อ 4 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายไทยอายุ 24 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ไปเที่ยวร่วมกับเพื่อน ซึ่งต่อมาตรวจพบเชื้อเช่นกัน ยังรอติดตามผลการตรวจเพื่อนอีก 3 คน ทีมสอบสวนโรคจึงไปตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยง และผู้สัมผัส ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย โดยจำนวนนี้ 1 ราย ให้ประวัติว่านอกจากไปเที่ยวย่านทองหล่อแล้วยังไปเที่ยวต่อย่านรัชดาและพระราม 9 ด้วย กลุ่มที่สอง มีผู้ติดเชื้อ 9 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายอายุ 37 ปี จากการสอบสวนพบลูกชายติดเชื้อ 1 ราย ผู้ที่พูดคุยใกล้ชิด 1 ราย คนที่ทำงาน 4 ราย โดยจำนวนนี้ 1 รายนำเชื้อไปติดแฟน และแฟนนำเชื้อไปติดเพื่อนที่อาศัยอยู่ด้วยกันอีกทอดหนึ่ง จึงเป็นการติดเชื้อต่อถึง 3 รุ่น

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า คลัสเตอร์ทองหล่อนั้นเป็นร้านที่อยู่ย่านเดียวกัน กับการระบาดระลอกแรกเมื่อต้นปี 2563 และพบพฤติกรรมคล้ายๆ กับการระบาดระลอกแรกคือกินเหล่าแก้วเดียวกัน และตระเวนเที่ยวในผับย่านทองหล่อ และเอกมัย หลายแห่ง รวมๆ มีความเชื่อมประมาณ 7 แห่ง ซึ่งผับแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อมากแต่ปิดให้บริการแล้วคือผับที่ชื่อคริสตัล ซึ่งผมว่าคลัสเตอร์นี้น่าเป็นห่วง 


“สถานบันเทิงหลายแห่งมีความเสี่ยงสูง เป็นจุดแพร่ระบาดโรคได้ ดังนั้น ปัจจัยเสี่ยง ขณะนี้เห็นชัดคือ คลุกคลีใกล้ชิด ไม่สวมหน้ากากอนามัย ทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มร่วมกัน ทั้งครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เที่ยวด้วยกัน จึงขอให้ลดความใกล้ชิดกัน และขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่กำหนดอย่างเคร่งครัดในสถานที่เสี่ยงต่างๆ ทั้งตลาด สถานบริการ สถานบันเทิง ร้านอาหาร ยิ่งช่วงสงกรานต์ หลายท่านวางแผนไปเที่ยวกัน จึงขอให้ระมัดระวังตัว และที่สำคัญประชาชน ผู้ใช้บริการต้องปฏิบัติตัวป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ พนักงานร้านอาหาร สถานบริการต่างๆ ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน มีจุดให้บริการล้างมือให้เพียงพอ และต้องมีเครื่องบันทึกสแกนไทยชนะ หรือหมอชนะ เป็นต้น” นพ.จักรรัฐ กล่าว