ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สภาการสาธารณสุขชุมชน ยื่นหนังสือผู้บริหาร สธ. ขอกำหนดตำแหน่งใหม่นักสาธารณสุข- เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน เป็นวิชาชีพเฉพาะและเชี่ยวชาญเฉพาะ ตามกฎหมาย เพื่อเพิ่มมาตรฐานความเชื่อมั่นเหมือนวิชาชีพอื่นๆ รอ อ.ก.พ. กระทรวงฯ พิจารณา

เมื่อไม่นานมานี้ นายอเนก ทิมทับ เลขาธิการสภาการสาธารณสุขชุมชน ยื่นหนังสือถึงผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ในการขอให้พิจารณากำหนดตำแหน่งใหม่เป็นวิชาชีพเฉพาะและเชี่ยวชาญเฉพาะสำหรับนักสาธารณสุข และเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน โดยมี นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รับเรื่องดังกล่าว

นายอเนก กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มนักวิชาการสาธารณสุข เป็นตำแหน่งที่เราใช้เรียกผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขชุมชน แต่ยังไม่มีตำแหน่งที่อยู่ในแท่งวิชาชีพแฉพาะ ดังนั้น ทางสภาฯ จึงได้ดำเนินการและขอให้มีการกำหนดตำแหน่งเป็นวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ. วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. 2556 โดยปัจจุบันมี 2 กลุ่ม คือ นักสาธารณสุข และเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ซึ่งจบปริญญาตรี และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขชุมชนเรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้มีประมาณ 2 หมื่นกว่าคน ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลทุกระดับของกระทรวงสาธารณสุข

“การกำหนดตำแหน่งตรงนี้จะมีข้อดี เพราะตัวผุ้ประกอบวิชาชีพจะได้รับการพัฒนา และเป็นวิชาชีพที่มีมาตรฐาน ทำงานอย่างเป็นมืออาชีพได้รับการยอมรับมากขึ้น มีเรื่องจรรยาบรรณเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นหนังสือถึงท่านอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และขณะนี้เหลือขั้นตอนที่ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข พิจารณา” นายอเนก กล่าว

สำหรับหนังสือที่ยื่น มีเนื้อหาใจความระบุถึงตามที่สภาการสาธารณสุขชุมชน ได้ดำเนินการจัดทำเรื่อง ขอกำหนดตำแหน่งใหม่นักสาธารณสุข เป็นตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะและเชี่ยวชาญเฉพาะ เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะงาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน ตลอดจนสิทธิและความก้าวหน้าของผุ้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พร้อมทั้งได้ยกร่างมาตรฐานกำหนดตำแหน่งใหม่ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รับทรบและได้ส่งมอบให้สำนักงาน ก.พ. ศึกษาความเป็นไปได้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรับทราบ และมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ รวมทั้งสำนักงาน ก.พ. ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวมายังสภาการสาธารณสุข เพื่อนำเรื่อง เสนอ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข พิจารณา และแจ้งมติ อ.ก.พ. กระทรวงสาธารณสุขให้สำนักงาน ก.พ.ทราบเพื่อดำเนินการต่อไป