ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาธิการ อย. เผยกรณีแชร์ข้อมูลวัคซีนโควิดไฟเซอร์เข้าไทยแล้ว ไม่เป็นความจริง! เผยมีกลไกการนำเข้าต้องยื่นขออนุญาต ล่าสุดสอบถามไปที่บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย เขาก็ยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการยื่นขึ้นทะเบียน อยู่ในระหว่างการเจรจา ซึ่งจะมายื่นขึ้นทะเบียนเร็วๆ นี้

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลว่าขณะนี้มีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาใช้ในประเทศไทยในภาวะฉุกเฉินแล้ว ว่า อย. ยืนยันว่า วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ยังไม่ได้มีการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย โดยเราได้ตรวจสอบและยืนยันอีกครั้งว่า บริษัทไฟเซอร์ยังไม่มีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์เข้ามา

"บริษัทไฟเซอร์ยังไม่ได้มีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เข้ามา กลไกในการนำเข้ามา 1.บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย จะต้องยื่นเป็นผู้ขอรับอนุญาตนำเข้า 2.ขออนุมัติยื่นขึ้นทะเบียน 3.เมื่อได้รับทะเบียนแล้วก็จะต้องให้ผู้ได้รับอนุญาต ทำเรื่องขออนุญาตกับ อย. เพื่อนำเข้าอีกครั้ง และเมื่อจะเข้ามาก็ต้องผ่านด่านอาหารและยา จากกองยา ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบแล้วว่า ไม่พบวัคซีนของไฟเซอร์เข้ามา และได้สอบถามไปที่บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย เขาก็ยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการยื่นขึ้นทะเบียน อยู่ในระหว่างการเจรจา ซึ่งจะมายื่นขึ้นทะเบียนเร็วๆ นี้ ดังนั้น เขาก็จะไม่สามารถนำสินค้าเข้ามาได้ และทางบริษัท ไฟเซอร์ ยืนยันว่า มีนโยบายขายวัคซีนให้กับภาครัฐเท่านั้น" นพ.ไพศาล กล่าว

นพ.ไพศาล กล่าวว่า อย. ขอยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้าง และขอเตือนว่าหากวัคซีนหรือยาตัวใดที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และมีการนำเข้าโดยไม่มีทะเบียน ก็ถือว่าเป็นยาที่ไม่มีทะเบียน โทษตามพระราชบัญญัติยา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนรับทราบ ติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของอย. เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงว่าวัคซีน ตัวไหนที่ขึ้นทะเบียนและสามารถนำมาใช้ในประเทศไทยได้

นพ.ไพศาล กล่าวว่า ขณะนี้อย. ขึ้นทะเบียนวัคซีนแล้ว 3 ราย ได้แก่ 1.วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด และที่ผลิตในประเทศโดย บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด 2.วัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัท ซิโนแวค นำเข้า โดยองค์การเภสัชกรรม และ 3.วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยบริษัท แจนเซ่น-ซีแลค จำกัด

 และอยู่ระหว่างประเมินคำขอขึ้นทะเบียน 1 ราย คือ วัคซีนโมเดิร์นนา โดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ราย อยู่ระหว่างทยอยยื่นเอกสารพร้อมประเมินคำขอขึ้นทะเบียนต่อเนื่อง ได้แก่ วัคซีนโควัคซีน โดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด และวัคซีนสปุตนิกไฟท์ โดยบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด

เมื่อถามว่ากรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า มีบางเว็บไซต์ ระบุพื้นที่ว่า "ประเทศไทยมีการอนุญาตให้ใช้วัคซีนภายในภาวะฉุกเฉินแล้ว" นพ.สุโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการอย. กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับบริษัทไฟเซอร์ประเทศไทย เขายืนยันว่า ไม่ได้เป็นเว็บไซต์ของทางบริษัท อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางบริษัทไฟเซอร์ประเทศไทยจะมีการแถลงข่าวชี้แจง เรื่องอีกครั้ง

เมื่อถามต่อว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ หากประเทศใดประเทศหนึ่งอยากหิ้ววัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเข้ามาฉีดให้ประชากรของตัวเองที่พำนักในประเทศไทย นพ.ไพศาล กล่าวว่า ในทางการการทูตนั้นตนไม่ทราบ แต่ ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อใช้แบบใดก็ต้องมาขออนุญาตจากอย.ก่อน ไม่เช่นนั้นจะถือเป็นยา หรือวัคซีนที่ไม่มีทะเบียน และจากการตรวจสอบยังไม่มีการนำเข้ามาแต่อย่างใด