ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.เผยมีการพิจารณาขยายกลุ่มฉีดวัคซีนโควิดเพิ่ม หลังล่าสุด 2 กลุ่มเป้าหมาย “ผู้สูงอายุ 60 ปี- 7 โรคเรื้อรัง”จองลงทะเบียน 1.6 ล้านคนจากตั้งเป้า 16 ล้านคน พร้อมย้ำขอให้มาฉีดเพื่อป้องกันโรค ยกตัวอย่างตนเองไม่มีผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ใดๆ

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) แถลงสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ว่า สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของประเทศไทยสะสม 1,898,454 โดส แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 1,365,992 ราย ผู้ที่ได้รับเข็มที่ 2 ครบโดสตามเกณฑ์จำนวน 532,462 ราย(ข้อมูล 28 ก.พ.-10 พ.ค.64) อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณทางจังหวัดต่างๆที่ช่วยกันในการเปิดให้คนมาลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด

“การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็น ซึ่งผมฉีดครบ 2 เข็มแล้ว ไม่มีอาการแพ้ และยังมีความภูมิใจและมั่นใจว่า ไปที่ไหนก็ไม่เป็นภาระใคร เราทำเพื่อชาติและทำให้สังคมของเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จากการที่เราไปฉีดวัคซีน" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้แจ้งที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้ประชุมครม. โดยได้แจ้งถึงมาตรการที่ให้ผู้ลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนโควิด แทนที่จะอยู่ 2 กลุ่ม คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งเท่าที่ทำมามียอดลงทะเบียน 1.6 ล้านคน จากยอดที่จะให้ลงทะเบียนทั้งหมด 16 ล้านคน จึงขอให้มีการขยายกลุ่มเป้าหมายในล็อตนี้ด้วย เพื่อให้คนที่อยากรับวัคซีนที่นอกเหนือจาก 2 กลุ่มนี้ได้รับวัคซีนด้วย

อนึ่งกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ประกอบด้วย โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วน