ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.เผยสถานการณ์โควิดรายใหม่ 2,302 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย พร้อมเตือนข้อมูลป่วยหนักเสียชีวิตพบโรคประจำตัวสำคัญ คือ โรคปอดเรื้อรัง มีข้อมูลมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ย้ำทั้งบุหรี่ทั่วไป บุหรี่ไฟฟ้า ทำร่างกายอ่อนแอกว่าปกติ ปอดทำงานหนักเสี่ยงเสียชีวิต มีโอกาสปอดอักเสบรุนแรง ขณะที่ 19 จ.ไม่พบรายงานติดเชื้อวันนี้(16 พ.ค.)

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 พ.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด19 ประจำวัน ว่า ขณะนี้ทั่วโลกติดเชื้อ 163,165,592 ราย เสียชีวิตสะสม 3,383,231 คน ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด คือ มาเลเซีย ติดเชื้อรายใหม่ 4,140 ราย กัมพูชา 335 ราย เมียนมาติดเชื้อ 24 ราย แม้ตัวเลขไม่มาก แต่ยังพบคนไทยเดินทางมายังไม่ลดลง

ส่วนประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 2,302 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย ทำให้ตัวเลขเสียชีวิตสะสม 495 ราย ขณะที่ผู้ป่วยยืนยันสะสม 72,584 ราย(ระลอกใหม่ 1 เม.ย.-16 พ.ค.) หายป่วยแล้ว 38,377 ราย ส่วนผู้ป่วยยังรักษาอยู่ 35,055 ราย อาการหนัก 1,228 ราย ในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 408 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,302 ราย โดยติดเชื้อในประเทศ 2,279 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง ตัวเลขล่าสุดวันนี้ 1,219 ราย ซึ่งตัวเลขนี้จะไปบวกรวมในวันพรุ่งนี้(17 พ.ค.)

 

“ผู้เสียชีวิต 24 ราย มีสิ่งที่ต้องเน้นย้ำเรื่องโรคประจำตัว คือ โรคปอดเรื้อรัง เพราะมีข้อมูลจากมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เน้นย้ำว่า การสูบบุหรี่ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ทั่วไป มีการยืนยันชัดเจนว่า ทำให้ร่างกายอ่อนแอกว่าปกติ และปอดทำงานหนัก กลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง มีโอกาสเป็นโรคปอดอักเสบรุนแรง จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด รวมไปถึงผู้ที่อยู่ใกล้กับผู้สูบบุหรี่ด้วย เนื่องจากต้องรับควันบุหรี่เช่นกัน” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 24 รายมาจากกรุงเทพฯ 8 ราย ชลบุรี ปทุมธานี กาญจนบุรีอย่างละ 2 ราย นอกนั้นเชียงใหม่ ศรีสะเกษ ราชบุรี สมุทรปราการ ขอนแก่น นครสวรรค์ พิจิตร ระยอง นครนายก และพระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และสิ่งที่เน้นย้ำในรายละเอียดของปัจจัยเสี่ยงเสมอ คือ มีรายงาน 11 ราย ติดเชื้อจากครอบครัว และมี 3 รายที่รักษาและเสียชีวิตในวันเดียวกัน และมากกว่า 3 รายพบว่าติดเชื้อและเสียชีวิตภายในสัปดาห์เดียว ดังนั้น สิ่งที่เน้นย้ำคือ ขอให้สำรวจอาการตัวเอง หากมีประวัติเสี่ยง ไปสถานที่เสี่ยง หรือสัมผัสผู้ที่มีการยืนยันติดเชื้อก่อนหน้านี้ ให้รีบเข้าสู่ระบบโดยเร็ว เพราะเมื่อผู้ป่วยเข้ารับการช่วยเหลือในระยะสีแดง แพทย์พยาบาลอาจไม่สามารถรักษาชีวิตได้

ทั้งนี้ รายงานผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทางกรมควบคุมโรคมีการรายงานและติดตามอย่างใกล้ชิด โดยวันนี้มี 23 ราย มี 3 กลุ่มประเทศ ซึ่งที่ประชุมศบค.ชุดเล็กเป็นห่วง คือ กลุ่มที่เดินทางมาจากเมียนมา ช่องทางธรรมศาสตร์มีรายงานติดเชื้อ 1 ราย ส่วนเดินทางจากกัมพูชามี 14 ราย ในจำนวนนี้ 13 รายเป็นคนไทยเดินทางกลับบ้าน ส่วนอีก 1 ราย มีสัญชาติออสเตรีย เป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์ขอเดินทางเข้ามาประเทศไทย และอีกกลุ่มมาเลเซียมี 3 รายที่เดินทางข้ามแดนถาวร(ทางบก)

“ศบค.ชุดเล็กได้มอบให้กระทรวงแรงงานหารือกับทางกรมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิดว่า ในสถานการณ์แพร่ระบาดรอบประเทศเพื่อนบ้านอาจเป็นการผลักดันให้คนไทยที่มีถิ่นพำนักในประเทศเหล่านั้นเดินทางกลับประเทศ จึงจะมีการหารือระหว่างกระทรวงแรงงานและกรมควบคุมโรค เพื่อตรวจสอบว่า มีชาวไทยอีกเท่าไหร่ที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศ ซึ่งเราสนับสนุนให้กลับมาตามช่องทางที่กำหนด เพื่อดูแลไม่ให้มีการแพร่เชื้อ โดยจะมีการเตรียม LQ หรือโลคอลควอรันทีนในการกักกันตัว เพื่อควบคุมโรค”ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่วันที่ 16 พ.ค. จำนวน 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.กรุงเทพมหานครพบ 1,218 ราย 2.ปทุมธานี 243 ราย 3.สมุทรปราการ 117 ราย 4.นนทบุรี 103 ราย 5.ประจวบคีรีขันธ์ 66 ราย 6. ชลบุรี 48 ราย 7.สมุทรสาคร 47 ราย 8.สงขลา 37 ราย 9.พระนครศรีอยุธยา 37 ราย และ10.สุราษฎร์ธานี 27 ราย

ทั้งนี้หากติดตามการรายงานความหนาแน่นของจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ (กลุ่มพื้นที่สีขาว) ณ วันที่ 16 พ.ค. 2564 มี 19 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน อ่างทอง นครพนม ตราด ตาก น่าน สุโขทัย สมุทรสงคราม กาฬสินธุ์ ชุมพร อุตรดิตถ์ ชัยนาท หนองคาย อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู บึงกาฬ อุทัยธานี และสตูล ขณะที่กลุ่มจังหวัดสีเขียวพบผู้ป่วย 1-10 รายมี 38 จังหวัด ส่วนผู้ติดเชื้อ 11-50 รายพื้นที่สีเหลืองพบ 15 จังหวัด ส่วนสีส้มพบผู้ป่วย 51-100 รายมี 1 จังหวัดคือ ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนสีแดงเข้มมากกว่า 100 ราย มี 4จังหวัด กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ และนนทบุรี สิ่งที่เน้นย้ำกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังพบตัวเลขติดเชื้อสูงมาก วันนี้พบถึง 1,744 ราย ขณะที่จังหวัดอื่นๆ 71 จังหวัดรวมกันวันนี้ 535 ราย ซึ่งมากกว่าจังหวัดอื่นๆเกินครึ่ง