กทม.ห่วง 5 คลัสเตอร์ติดโควิดพุ่ง! สูงสุดแคมป์คนงานหลักสี่

ศบค.เผยสถานการณ์เฝ้าระวังห่วงสุด 5 คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มต่อเนื่อง สูงสุด “แคมป์คนงานเขตหลักสี่” รองลงมา แฟลตดินแดง แคมป์คนงานเขตวัฒนา คลองถม วงเวียน 22 ป้อมปราศัตรูพ่าย และห้วยขวาง เขตดินแดง พร้อมย้ำมาตรการดูแลแคมป์คนงานก่อสร้าง

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า กทม.มีการรายงานคลัสเตอร์ที่เป็นห่วงในตอนนี้ โดยเฝ้าระวัง 27 คลัสเตอร์ ใน 17 เขต สำนักอนามัย กทม. รายงานว่า 7 คลัสเตอร์ควบคุมได้ดีพอสมควร แต่ที่นำมาหารือใน ศบค.วันนี้มี 5 คลัสเตอร์สำคัญ ยังมีการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน อันดับ 1 คือแคมป์คนงานเขตหลักสี่ 2.แฟลตดินแดง 3.แคมป์คนงานเขตวัฒนา 4.คลองถม วงเวียน 22 ป้อมปราศัตรูพ่าย และ 5.ห้วยขวาง เขตดินแดง ถ้าประชาชนอยู่ในคลัสเตอร์สำคัญนี้ให้ติดตามการรายงานของกทม. จะมีการระดมตรวจเชิงรุกและให้คำแนะนำคนรอผลตรวจ จำเป็นต้องกักตัว เพราะอาจยังไม่มีอาการและเป็นผู้แพร่เชื้อได้

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมมีความเป็นห่วงของแคมป์คนงาน เมื่อวานมีการรายงานตัวเลขการสำรวจปลายปี 2563 พบว่ามีการกระจายตัว 393 แคมป์ มีประชากรแรงงานเกือบ 6 หมื่นราย จำนวนนี้มีทั้งชาวไทยและแรงงานเพื่อนบ้าน ผลตรวจหาเชื้อโควิดวันนี้คุยกันที่แคมป์ก่อสร้างเขตหลักสี่ บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ตรวจวันที่ 15 พ.ค. ตรวจ 559 ราย พบติดเชื้อรายงาน 482 ราย คิดเป็น 86.23% สำนักงานเขตหลักสี่และตำรวจเข้าไปในพื้นที่ปิดแคมป์เรียบร้อย มีการรายงานกับบริษัทเจ้าของ และตรวจแคมป์คนงานในเครือทั้งหมดด้วย

"กรมควบคุมโรครายงานการวิเคราะห์จากการสอบสวนโรคพบว่า ความเป็นอยู่ในแคมป์คนงานค่อนข้างหนาแน่น ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันหลายจุด ห้องน้ำ ห้องส้วม จุดรับประทานอาหาร พฤติกรรมคนงานยังเดินทางไปในตลาดชุมชน ซื้อข้าวของดำเนินชีวิต และเดินทางข้ามพื้นที่ เช่น คนงานแคมป์คลองเตยไปเยี่ยมแคมป์วัฒนา หรือจากหลักสี่ข้ามไปอยุธยา ที่ประชุมวันนี้จึงมีการกำหนดมาตรการจะประกาศใช้ให้บริษัทจัดแรงงานเหล่านี้รับทราบ" พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า มาตรการที่แคมป์คนงานก่อสร้างต้องร่วมมือ คือ 1.จัดที่พักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางมีการทำความสะอาด มีการจัดการเรื่องการรบายอากาศ กำหนดความหนาแน่น เช่น พื้นที่สาธารณะห้องน้ำต้องแยกอาบน้ำไม่ให้หนาแน่น 2.สถานที่ทำงานต้องเว้นระยะ จัดจุดล้างมือ รวมถึงที่รับประทานอาหารต้องทบทวนทำให้ถูกต้อง 3.การเดินทาง ข้อเสนอแนะศบค.คือจัดให้เป้นบับเบิลแอนด์ซีล คือ ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาตก่อนเท่านั้น โดยจะจัดความช่วยเหลือเรื่องอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค กรมควบคุมโรคจะระดมตรวจคัดแยกผู้ป่วยตามระดับความรุนแรงเพื่อเข้าสู่การรักษา และ 4.การประชาสัมพันธ์สื่อสาร ซึ่งบางคนไม่ใช่ภาษาไทยก้ต้องสื่อสารเพื่อเข้าใจมาตรการทำอย่างถูกต้องและกำกับติดตามเข้มข้น

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า แรงงานต่างด้าวที่ป่วยแล้ว รพ.สนามที่รองรับแรงงานเพื่อนบ้านนี้มีวัฒนาแฟคทอรี หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร เปิดแล้วมี 760 เตียง และศูนย์ห่วงใยคนสาครบริษัท วิท วอเตอร์ เข้ามาร่วมสมทบอีก 400 เตียง ต้องจัดแรงงานเพื่อนบ้านอยู่รวมกัน กองทัพจะจัดล่ามภาษาเข้ามา การดูแลต้องจัดให้มีมาตรฐานเดียวกันกับคนไทย และคนเข้ารับการรักษาปลอดภัย และดูแลเรื่องการฉีดวัคซีนจะมีการพิจารณาที่สอดคล้องกันไป บุคลการและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคนติดเชื้อจะได้ปลอดภัยด้วย