ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โควิดติดเชื้อรายใหม่ 2,473 ราย จากเรือนจำ 680 ราย ที่น่าห่วงยังพบคนลักลอบเข้าประเทศ ล่าสุดตัวเลข 24 ชม.ลอบเข้าชายแดนธรรมชาติ 107 ราย ขณะที่คนเดินทางตปท. 23 ราย พบจากอินเดียมากสุด มี 1 ราย มาทางเรือ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานสถานการณ์โควิดประจำวัน ว่า สถานการณ์ติดเชื้อรายใหม่ 2,473 ราย มาจากติดเชื้อในประเทศ 1,770 จากต่างประเทศ 23 ราย และจากเรือนจำ 680 ราย ซึ่งตัวเลขสะสมของผู้ติดเชื้อในเรือนจำระลอกใหม่(1 เม.ย.-18 พ.ค.64) พบ 11,428 ราย ส่วนตัวเลขสะสมระลอกนี้ 84,692 ราย ส่วนตัวเลขยืนยันสะสมตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 113,555 ราย ขณะที่หายป่วย 42,492 ราย ที่ยังรักษาอยู่ 42,988 ราย อาการหนัก 1,150 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 384 ราย และเสียชีวิตวันนี้ 35 ราย ทำให้ยอดสะสมเสียชีวิตอยู่ที่ 555 ราย คิดเป็น 0.6% หากคิดตัวเลขเสียชีวิตรวมตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้อยู่ที่ 649 ราย

“ตัวเลขหายป่วยวันนี้ 2,718 ราย ซึ่งผลงานการหายป่วยไม่ใช่แค่ผู้ป่วยจะดีใจ บุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเททำงานก็รู้สึกดี เพราะระหว่างการรักษาพวกเขาทุ่มเทการทำงานมาก ซึ่งตรงนี้ถือเป็นผลงานทั้งของพี่น้องประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว และว่า ส่วนวัคซีนขณะนี้ฉีดไปแล้ว 2,340,955 โดส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับรายที่เสียชีวิต 35 ราย เป็นกรุงเทพฯ 16 ราย ขณะที่ เชียงราย สงขลา และสมุทรปราการจังหวัดละ 2 ราย และจังหวัดละ 1 รายอยู่ที่อุบลราชบุรี สระแก้ว ศรีสะเกษ ระยอง ชลบุรี ปทุมธานี ชัยภูมิ ลพบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ชุมพร สระบุรี และสุราษฎร์ธานี ส่วนโรคประจำตัวมีความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไตเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูง ปัจจัยเสี่ยงยังเหมือนเดิมติดเชื้อจากคนในครอบครัวสุงสุด ส่วนผู้เสียชีวิตชาย 17 ราย หญิง 18 ราย อายุค่ากลาง 68 ปี ขณะที่จำนวนวันนอนในรพ. หรืออัตราการใช้เตียงนานสุด 38 วัน ค่ากลางอยู่ที่ 15 วัน ซึ่งการใช้เตียงมีเวลานานขึ้น

ส่วน 23 รายที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มาจากอินเดีย 13 ราย โดย 2 รายแรกเป็นคนไทย พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ และมี 10 รายเดินทางมาทางอากาศ แต่มี 1 รายเดินทางเข้ามาทางเรือ ซึ่งเป็นคนสัญชาติโปแลนด์ เป็นวิศวกรมากับเรือที่รับงานแท่นขุดเจาะ ซึ่งเราห้ามทางอากาศแต่ไม่ได้ห้ามทางเรือ ปรากฏว่าเขาเข้ามาทางนี้ และป่วย ซึ่งขณะนี้รับการรักษาที่รพ.เอกชนที่สงขลา ซึ่งเรื่องนี้ทุกช่องทางที่มาจากอินเดียเราต้องเข้มงวดทั้งหมด โดยที่ประชุมมีการพูดคุยและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

“นอกนั้นมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย มาเลเซีย 4 ราย กัมพูชา 5 ราย ซึ่งมาเลเซียมาถูกต้อง แต่กัมพูชาพบว่าหญิง 2 คนสัญชาติไทย ลักลอบเข้าเมือง ซึ่งตัวเลขเข้ารอบเข้าเมือง 24 ชั่วโมง พบ 107 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมียนมา กัมพูชา และลาวมาจากพรมแดนธรรมชาติ มีการตั้งคำถามว่าเป็นความย่อหย่อนของทางฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ ซึ่งมีการพูดคุยในที่ประชุมว่า มาตรการของฝ่ายชายแดน ทั้งลาดตระเวน ทั้งโดรนมีการตึงเต็มที่ แต่คนลักลอบน่าตำหนิ ซึ่งเราบอกทุกวันขอให้กลับมาถูกต้อง อย่าใช้วิธีแบบนี้ ซึ่งทางฝ่ายมั่นคงเข้มงวดมาก และด้วยความสามารถในการเจอก็มี รวมทั้งฝ่ายสอบสวนโรค” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

สำหรับสถานการณ์ต่างประเทศ อย่างกรณีนี้สิงคโปร์พบคลัสเตอร์ใหม่ที่เป็นสายพันธุ์อินเดียเข้ามา คือ สนามบินซางฮีมีคนติดเชื้อมากกว่า 50 ราย และรพ. อีก 44 ราย ทำให้ต้องมีมาตรการล็อกดาวน์ 16 พ.ค.-13 มิ.ย.นี้ และส่งผลให้ต้องยกเลิกแทรเวล บับเบิล กับฮ่องกง ส่วนของทางไต้หวันมีรายงานติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งไต้หวันเป็นหนึ่งในประเทศที่เคลมว่ามีระบบการดูแลสาธารณสุขที่ดี แต่ขณะนี้เขาก็พยายามหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ เพราะเกรงส่งผลทางเศรษฐกิจ จึงต้องใช้การควบคุมโรควิธีอื่นๆ ซึ่งขณะนี้มีการตุนอาหาร เกิดความตระหนกขึ้นมา ขณะที่สิงคโปร์พบนักโทษผู้คุม 5 พันคนต้องตรวจหาเชื้อ ซึ่งคล้ายๆของประเทศไทย

ต่อมาทาง ศบค.แจงผ่านเฟชบุ๊กกรณีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากอินเดียทางเรือว่า รักษาที่สงขลา นั้น เป็นการแถลงข้อมูลผิด โดยข้อเท็จจริง คือ รักษาบนเรือ ไม่ใช่รักษาในจ.สงขลา