ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า สถานการณ์แรงงานต่างด้าวลักลอบเดินทางเข้าประเทศยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวชายแดนด้านประเทศเมียนมา ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งล่าสุดพบว่ามีสายพันธ์จากอินเดียและแอฟริกาใต้แพร่เข้ามาในประเทศไทย ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเพิ่มความเข้มงวด ประสานการปฏิบัติเพื่อสกัดกั้น โดยจุดเสี่ยงที่จับตาเป็นพิเศษคือแนวชายแดนจ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.กาญจนบุรี อ.แม่สอด จ.ตาก และอ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ผ่านมาสามารถจับกุมขยายเครือข่ายลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ 20 กว่าเครือข่าย

พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวว่า การลักลอบเข้าเมืองในขณะนี้ถือว่าน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงการระบาดระลอก 2 เมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา เมื่อตรวจพบการระบาดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ตรวจหาผู้ติดเชื้อและให้การรักษาจนหายดี ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายว่าให้นำแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ขึ้นมาเข้าสู่ระบบ คัดกรองว่าติดเชื้อหรือไม่ เพื่อทดแทนในส่วนที่ขาดแคลนแรงงาน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 29 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา

“ผู้ลักกลอบหลบหนีเข้าเมืองไทยเป็นจำนววนมากก่อนการแพร่ระบาด เมื่อมีการแพร่ระบาด แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้อยู่ในประเทศไทย เป็นผู้ที่อยู่มานานและไม่มีการติดเชื่้อ รัฐบาลก็มีนโยบายว่าให้เอาแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ขึ้นมาเข้าสู่ระบบ ไม่อย่างนั้นจะเอาแรงงานต่างด้าวเข้ามาซึ่งเราไม่รู้ว่าติดเชื้อหรือเปล่า ที่ผ่านมามีการลงทะเบียนมาแจ้งยอด รายงานตัวแล้วเกือบ 5 แสนราย" พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าว

ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตม.ติดเชื้อโควิดแล้วกว่า 10 ราย จากการปฏิบัติหน้าที่ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 ราย อีก 6 รายจากห้องกักด่านตม.อ.สะเดา จ.สงขลา ล่าสุดการเปิดโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ต้องกักที่ติดเชื้อก็ทำให้มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้ออีกประมาณ 12 ราย ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลสนามของตม.ดูแลผู้ต้องกักที่ติดเชื้อประมาณ 400 ราย