ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โควิดรายใหม่ 2,230 ราย เสียชีวิต 38 ราย กรุงเทพฯป่วยสะสมสูงสุด 42,437 ราย เผยมาตรการคุมแคมป์คนงานจำกัดพื้นที่ “บับเบิ้ลแอนด์ชีล” ให้ทำงานได้แต่จำกัดขอบเขต เพื่อให้ศก.เดินหน้า ส่วนจ.สระแก้วพื้นที่ติดกัมพูชา มีคนเดินทางเข้าถูกกฎหมายเป็นพันราย ติดเชื้อหลายสิบเปอร์เซ็นต์ มีรพ.สนามรองรับเพียงพอ แต่ LQ รองรับคนไม่ป่วยไม่พอ ล่าสุด ศบค.เห็นชอบหาพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงรองรับ

เมื่อเวลา 12.30 วันที่ 1 มิ.ย.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19(โควิด19) กล่าวว่า ประเทศไทยพบติดเชื้อรายใหม่ 2,230 ราย ติดเชื้อสะสมระลอกเดือน เม.ย.(1เม.ย.-1 มิ.ย.64) 133,159 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ วันนี้ติดเชื้อ 864 ราย ติดเชื้อสะสมในกรุงเทพฯ 42,437 ราย ปริมณฑล 548 ราย ตัวเลขสะสม 21,869 ราย จังหวัดอื่นๆ 71 จังหวัด 720 ราย ตัวเลขสะสม 41,713 ราย เรือนจำและที่ต้องขัง 77 ราย ตัวเลขสะสม 26,330 ราย

สำหรับตัวเลขเสียชีวิตวันนี้ 38 ราย ตัวเลขสะสม 975 ราย เฉพาะกรุงเทพฯเสียชีวิตสะสม 22 ราย ปริมณฑล 4 ราย จังหวัดอื่นๆ 10 ราย เรือนจำ 2 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขติดเชื้อที่กรุงเทพฯ ยังกระจายตามเขตต่างๆ ซึ่งศบค.มีมาตรการสั่งการให้เข้มมาตรการเป็นจุดๆ เพราะสิ่งที่ได้เรียนรู้กันมา ทั้งสถานที่เสี่ยง ชุมชน ตลาด หรือแคมป์คนงานก็จะซ้ำกันอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น จึงต้องเพิ่มมาตรการ โดยให้ทาง ศบค.กทม.สั่งการดูแลและแบ่งเป็นกลุ่มเขต ที่มีรองปลัดกทม.แต่ละท่านช่วยกันดูแล โดยจะใช้กลไกด้านนี้ในการดำเนินงาน โดยให้บริหารเป็นกลุ่มเขต

ส่วนมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ชิล ต้องพิจารณาผลถึงการควบคุมโรคด้วย แต่หากผลนั้นๆกระทบต่อสังคม เช่น ปิดแคมป์แล้วทำให้แรงงานที่เคยทำงานไม่มีงานทำ คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คนสัมผัสโรคจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นจะมีการกระจายออกไป จึงต้องคิดว่า หากมีการกระจายไปเขตอื่นจะนำโรคไปยังเขตอื่นด้วย ดังนั้น หากพื้นที่นั้นมีขอบเขตชัดเจนและให้เขาทำงานได้อยู่ โดยมีผู้ประกอบการ มีภาครัฐเข้าไปดู เศรษฐกิจก็จะเดินต่อไปได้

“เรามีข้อมูลว่า คนติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงานและไม่มีอาการ ซึ่งทำงานต่อไปได้ ก็อาจให้มีการทำงานต่อ แต่ต้องมีมาตรการควบคุม จำกัดขอบเขต ซึ่งตรงนี้ต้องมีการสื่อสารกับคนรอบๆแคมป์ ต้องสื่อสารให้คนในชุมชนแถวๆนั้นเข้าใจว่า ไม่ได้ปิดห้ามการทำงาน แต่ปิดไม่ให้พวกเขาออกนอกพื้นที่ แต่ให้ทำงานต่อไปได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาการลักลอบเข้าไทยยังคงมีอยู่ โดยขณะนี้พบกัมพูชาลักลอบเข้ามาตามพรมแดนธรรมศาสตร์ 78 คน เมียนมา 40 คน ลาว 9 คน ส่วนมาเลเซียไม่มีตัวเลขรายงาน รวมแล้ว 164 คน นอกจากนี้ มีการประชุมเกี่ยวกับจ.สระแก้ว ซึ่งติดกับกัมพูชา มีรายงานว่ามีคนเดินทางเข้ามาร่วมพันคน และมีคนติดเชื้อหลายสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งคนติดเชื้อต้องเข้ารพ.สนาม โดยฝั่งกระทรวงสาธารณสุขและรพ.เอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแล ขณะนี้ยังดูแลกันได้

“แต่กรณีที่ไม่ป่วย ต้องมีโลคอลควอรันทีน (Local quarantine: LQ) หรือสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ในพื้นที่ โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว อาจมีปัญหาไม่เพียงพอ เพราะในจ.สระแก้วใช้ไปมากแล้ว โดยจะขอพื้นที่เพิ่มเติม อาจเป็นจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบเรื่องนี้ เพราะเมื่อเราเปิดให้เขาเข้ามาตามช่องทางถาวร ก็ต้องมีสถานที่ให้เขาพักอาศัยด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว