ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค เผยขั้นตอนก่อนการกระจายวัคซีนโควิด 19 ไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้รับการตรวจสอบคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยซิโนแวคใช้เวลาตรวจสอบคุณภาพ 1-2 สัปดาห์ ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า มีโรงงานผลิตในไทยใช้เวลาตรวจสอบคุณภาพวัคซีนเฉลี่ยประมาณ 3 วัน

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจัดหาวัคซีนให้คนไทยอย่างน้อย 50 ล้านคน หรือร้อยละ 70 ของประชากรในประเทศ นั้น กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการจัดสรรวัคซีนโควิด 19 โดยยึดตามนโยบายของ ศบค. และข้อมูลทางวิชาการในการจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายเชิงประชากร ซึ่งคิดจากตัวเลขที่แต่ละจังหวัดตั้งมาและปรับตามสูตรการคำนวณให้สอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับ

(ข่าวเกี่ยวข้อง : สธ. เตรียมจัดส่งวัคซีนโควิดล็อตใหม่ “แอสตร้าฯ-ซิโนแวค” 1-2 สัปดาห์นี้)

สำหรับขั้นตอนการจัดสรรวัคซีนเพื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เริ่มต้นจากองค์การเภสัชกรรม ไปรับวัคซีนจากบริษัทที่สนามบินสุวรรณภูมิ และส่งตัวอย่างวัคซีนและเอกสารการตรวจสอบคุณภาพของวัคซีนให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบสภาพของบรรจุภัณฑ์ จำนวน และอุณหภูมิที่ใช้ในการขนส่งวัคซีน ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ การทดสอบคุณภาพและการวิเคราะห์คุณภาพของวัคซีนในห้องปฏิบัติการ จะดำเนินไปพร้อมกับการตรวจสอบเอกสารข้อมูลการผลิตและการควบคุมคุณภาพของผู้ผลิต (Summary Production Protocol)

โดยวัคซีนซิโนแวค จะใช้เวลาในการตรวจสอบคุณภาพประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่มีโรงงานการผลิตอยู่ในประเทศไทย จะใช้เวลาในการตรวจสอบคุณภาพวัคซีนเฉลี่ยประมาณ 3 วัน ซึ่งก่อนการอนุมัติให้กระจายวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ต้องส่งผลการตรวจสอบคุณภาพไปยังประเทศอังกฤษเพื่อทำการวิเคราะห์คุณภาพอีก 1 วัน หลังจากผ่านการวิเคราะห์คุณภาพจากประเทศอังกฤษแล้ว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะทำการออกหนังสือรับรองรุ่นการผลิต (lot released) ให้กับองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นผู้นำเข้าวัคซีน และองค์การเภสัชจะส่งมอบวัคซีนให้กับกรมควบคุมโรคต่อไป

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค จะเป็นผู้จัดสรรและกระจายวัคซีนตามแผนการจัดสรรวัคซีนที่ ศบค. พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งก่อนการส่งมอบวัคซีนไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะมีการวางระบบควบคุม ที่มีมาตรฐานตั้งแต่การตรวจสอบคุณภาพ การเก็บรักษา และการควบคุมอุณหภูมิของพื้นที่ปลายทางที่จะรับวัคซีนด้วย ส่วนการจัดฉีดวัคซีนทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการ โดยต้องฉีดให้สมดุลกับวัคซีนที่ได้รับ ให้มีวัคซีนฉีดต่อเนื่อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด 19 ให้กับประชาชน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ภาพจากกรมควบคุมโรค

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org