ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ทำหนังสือถึง “บิ๊กตู่-อนุทิน” ขอเห็นใจพยาบาลทำงานหนัก! เสี่ยงติดเชื้อเสียชีวิต ขาดเครื่องมืออุปกรณ์ป้องกันตัวเองในการดูแลผู้ป่วยโควิดสีเหลือง โดยเฉพาะชุดอุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจขั้นสูง (Powered Air Purifying Respirator) พร้อมขอปรับเกณฑ์จ่ายชดเชยเบื้องต้นเพิ่มเป็น 10 เท่า ขอสิทธิสวัสดิการเทียบเท่า ทหาร ตำรวจ เพราะบุคลากรทำงานสู้รบกับเชื้อโรค ไม่แตกต่างจากสนามรบ

ตามที่สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ร้องรัฐบาล 7 ประเด็นเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ หลังโควิดระบาดหนัก กระทบบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคน หลายคนติดเชื้อ และมีบางคนเสียชีวิตนั้น

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2564 น.ส.มัลลิกา ลุนจักร์ ประธานสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย และพยาบาลโรงพยาบาลหนองวัวซอ จ.อุดรธานี กล่าวถึงกรณีการออกแถลงการณ์ของสหภาพพยาบาลฯ ว่า การที่พยาบาลต้องออกมาเรียกร้อง และออกแถลงการณ์ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้นจนเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า ที่สำคัญขณะนี้พวกตนต้องอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อ และเสี่ยงเสียชีวิต ซึ่งจากที่ผ่านมาก็มีพยาบาลติดเชื้อ และเสียชีวิตก็มี ปัญหาคือ ในพื้นที่ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนกำลังประสบปัญหา บุคลากรขาดเครื่องมืออุปกรณ์ป้องกันตัวเองจากการดูแลผู้ป่วยโควิดที่มีอาการสีเหลืองไปจนสีแดง

 

00 ขาดแคลนชุดอุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจขั้นสูง

“จริงๆ โรงพยาบาลชุมชน ส่วนใหญ่เป็น รพ.ที่มีเตียง 20- 30 เตียง อย่างของรพ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ตามหลักวิชาการในการรับดูแลผู้ป่วยแอดมิดจะ 6 คน ซึ่งมักเป็นผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเขียว คืออาการไม่หนัก แต่ปัจจุบันด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และหนักหน่วง ทำให้มีอัตราครองเตียง 23 คน ซึ่งเป็นกลุ่มอาการสีเหลือง ไปจนถึงสีแดง ปัญหาคือ ไม่มีอุปกรณ์สำหรับป้องกันตัวเอง ทั้งๆที่ต้องขยับไปดูแลผู้ป่วยสีเหลือง โดยเฉพาะชุดอุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจขั้นสูง หรือ Powered Air Purifying Respirator ซึ่งเป็นชุดสำหรับบุคลากรที่ต้องเข้าไปดูแลผู้ป่วยโควิด ปัจจุบันพวกเราไม่มี ทำให้ต้องผลัดกัน มีอยู่ 2 ชุด โดยจะอยู่ได้ประมาณ 10 นาทีก็เริ่มอึดอัดแล้ว นอกจากนี้ ยังขาดพวกชุด PPE หน้ากากอนามัยชนิด N95” น.ส.มัลลิกา กล่าว

น.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราได้ทำเรื่องขออุปกรณ์เครื่องมือไปแล้ว แต่ด้วยตามระเบียบราชการอาจต้องใช้เวลา หรืออาจมาไม่ครบเราก็ไม่รู้ ที่ผ่านมาก็อาศัยการบริจาค แต่สิ่งสำคัญ เราอยากให้มีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่เครื่องมืออุปกรณ์ที่ขาดแคลนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องอื่นๆอีก อย่างสิทธิสวัสดิการ การดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการให้บริการผู้ป่วยโควิด ซึ่งทางสหภาพพยาบาลฯ จะทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทวงสาธารณสุข รับทราบและช่วยเหลือพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคน

น.ส.มัลลิกา ลุนจักร์

00เตรียมส่งหนังสือถึง "บิ๊กตู่-อนุทิน" ช่วย 7 ประเด็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนังสือที่จะส่งถึงนายกฯและรองนายกฯ จะเป็นไปตามข้อเรียกร้อง 7 ประเด็นใช่หรือไม่ น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า เป็นไปตามนั้น โดยเฉพาะเรื่องการทำงานของบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า เพราะจริงๆ แล้วตอนนี้ทำงานกันแทบจะหมดทุกคน ทำงานหนัก หมุนเวียนกัน อย่างพยาบาล 1 คนดูแลผู้ป่วยโควิด 10 คน ทำงานอย่างน้อย 32 ชั่วโมง ควบเวร จะมีเวลาพักผ่อนคือ สลับกันนอน แต่ต้องสแตนบายตลอดเวลา อย่างบางคนไปทำงานรพ.สนาม กลับมารพ. ก็ต้องทำงานต่อ ลงพื้นที่ไปสว็อปหาเชื้อโควิดในชุมชนอีก ช่วยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด นอกจากนี้ เรายังช่วยกทม. ปริมณฑล อย่างล่าสุดส่งรถจากอุดรฯ ไปรับผู้ป่วยโควิดที่จ.ปทุมธานีมารักษา

“ตอนนี้พยาบาล ก็เป็นหนึ่งในบุคลากรด่านหน้าทำงานตลอด ปัจจุบันพยาบาลมีทั้งหมดราว 220,000 คน มีเป็นข้าราชการประมาณ 9 หมื่น – 1 แสนคน ที่เหลือ เป็น ลูกจ้างชั่วคราว เราทำงานเสี่ยงติดเชื้อมากที่สุด แต่พวกเรากลับไม่ได้สิทธิสวัสดิการที่สมควรได้รับ แตกต่างจากทหาร ตำรวจ ออกสู้รบหรือเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ยังได้การเชิดชูเกียรติ มีเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง พวกเราแค่การบรรจุตำแหน่งยังยาก พยาบาลที่ทำงานมานานไม่มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ อยู่ชำนาญการจนเกษียณ และยิ่งมีโควิดระบาดหนัก เสี่ยงติดเชื้อเสี่ยงเสียชีวิต กลับไม่มีสวัสดิการที่เพียงพอให้เรา จึงขอเรียกร้องท่านนายกฯ ท่านอนุทิน ท่านสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. เห็นใจและช่วยเหลือพวกเรา” ประธานสหภาพพยาบาลฯ กล่าว

เมื่อถามว่าปัจจุบันรัฐบาลได้ทำ กรมธรรม์ประกันภัย (Covid-19) ให้แก่บุคลากรปฏิบัติงานโควิด น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า กรมธรรม์ประกันภัยโควิดไม่ได้ให้บุคลากรทุกคน แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ระบาดหนักไปทั่ว! ดังนั้น หากจะทำก็ต้องครอบคลุมทั้งหมด อย่างของรพ.ที่ตนเองทำงาน ก็ไม่ได้ประกันทุกคน แต่ตอนนี้ทุกคนมาช่วยงานปฏิบัติหน้าที่โควิดหมดแล้ว

ภาพจากเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลหนองวัวซอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ขอเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 7 ประเด็น คือ

(ข่าวเกี่ยวข้อง : สหภาพพยาบาลฯ ร้องรัฐบาล 7 ประเด็น เพิ่มเงินช่วยเหลือเสียชีวิต ขอวัคซีน-เครื่องมือป้องกันโควิดระบาดหนัก!)

1.ขอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองบุคลากรสาธารณสุขผู้ได้รับอันตราย หรือการเจ็บป่วย เพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่ และหรือจัดตั้งกองทุนสวัสดิการบุคลากรสาธารณสุข

2.ปรับแก้ไข ออกกฎ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินการช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหาย จากการให้บริการสาธารณสุข พ.ศ.2561 เพิ่มความคุ้มครองจากเดิมเป็น 10 เท่า เช่น เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด เป็นเงิน 4 ล้านบาท

3.ข้อให้รัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีน mRNA ครอบคลุมให้แก่พยาบาลทุกคน และเจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุขทุกคนจัดสรรภายในเดือน ก.ย. 2564 นี้

4.เพิ่มสวัสดิการค่าตอบแทนบำเหน็จกรณีพิเศษแก่พยาบาลทุกคนที่ป่วยหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

5.เพิ่มเวลาราชการทวีคูณ แก่พื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด

6.เพิ่มความก้าวหน้าโดยขยายตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ พยาบาลวิชาชีพเชี่ยวชาญ เพิ่มจากร้อยละ 100

7.จัดหาอุปกรณ์การป้องกันชุดที่เพียงพอ และทั่วถึงทุกจุดบริการทั่วประเทศ ขอให้จัดสรรชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ชุด Surgical Gown 2.ชุด Coverall 3.ชุด PAPR ชุดป้องกันเชื้อพร้อมเครื่องกรอง ชุด PAPR ชุดเกราะสู้โควิด หรือชุดอุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจขั้นสูง อุปกรณ์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า สามารถใช้สำหรับรพ. รพ.สนามอย่างปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤต โควิดในประเทศ เพิ่มคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุขและครอบครัว