ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ร้องรัฐบาล 7 ประเด็นเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ หลังโควิดระบาดหนัก! ทำบุคลากรปฏิบัติเสี่ยง ที่ผ่านมาพบติดเชื้อ และมีเสียชีวิต ขอเร่งจัดหาวัคซีน mRNA ครอบคลุมพยาบาลทุกคนใน ก.ย.64 นี้ ขณะเดียวกันขอปรับแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการบริการฯ ขอเพิ่มคุ้มครอง 10 เท่าจากเดิม โดยเสียชีวิตได้รับเป็นเงิน 4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์สหภาพพยาบาลฯ ฉบับที่ 1/2564 โดยใจความสำคัญ ระบุว่า ประเทศไทยมีการระบาดของโรคอุบัติใหม่ โรคโควิด-19 ต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ปลายปี 2562 ทำให้เกิดปัญหาภาระหนัก ขาดอัตรากำลัง เจ้าหน้าที่มีความเครียดสูง เกิดความกดดันต่างๆ การขาดการช่วยเหลือ แก่โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามขาดอุปกรณ์การป้องกันชีวิต การไม่ได้รับวัคซีนชนิดที่ป้องกันของบุคลากร ปัญหาเหล่านี้บั่นทอนกำลังใจ พยาบาลและเจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยเฉพาะช่วงการระบาดหนักเดือนเม.ย.-10 ก.ค.2564 มีรายงานพยาบาลเสียชีวิต มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 880 ราย ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรหญิงร้อยละ 54 เป็นพยาบาล หรือผู้ช่วยพยาบาล รองลงมาคือ วิชาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย ฯลฯ

ทั้งนี้ สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ขอเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 7 ประเด็น คือ

1.ขอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองบุคลากรสสาธารณสุขผู้ได้รับอันตราย หรือการเจ็บป่วย เพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่ และหรือจัดตั้งกองทุนสวัสดิการบุคลากรสาธารณสุข

2.ปรับแก้ไข ออกกฎ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินการช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหาย จากการให้บริการสาธารณสุข พ.ศ.2561 เพิ่มความคุ้มครองจากเดิมเป็น 10 เท่า เช่น เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด เป็นเงิน 4 ล้านบาท

3.ข้อให้รัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีน mRNA ครอบคลุมให้แก่พยาบาลทุกคน และเจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุขทุกคนจัดสรรภายในเดือน ก.ย. 2564 นี้

4.เพิ่มสวัสดิการค่าตอบแทนบำเหน็จกรณีพิเศษแก่พยาบาลทุกคนที่ป่วยหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

5.เพิ่มเวลาราชการทวีคูณ แก่พื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด

6.เพิ่มความก้าวหน้าโดยขยายตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ พยาบาลวิชาชีพเชี่ยวชาญ เพิ่มจากร้อยละ 100

7.จัดหาอุปกรณ์การป้องกันชุดที่เพียงพอ และทั่วถึงทุกจุดบริการทั่วประเทศ ขอให้จัดสรรชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ชุด Surgical Gown 2.ชุด Coverall 3.ชุด PAPR ชุดป้องกันเชื้อพร้อมเครื่องกรอง ชุด PAPR ชุดเกราะสู้โควิด หรือชุดอุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจขั้นสูง อุปกรณ์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า สามารถใช้สำหรับรพ. รพ.สนามอย่างปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤต โควิดในประเทศ เพิ่มคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุขและครอบครัว

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง ; “มัลลิกา” พยาบาล รพ.หนองวัวซอ อีกเสียงถึงรัฐบาล! ภาระงานโควิดเพิ่ม! แต่ขาดเครื่องมือ-สวัสดิการช่วยเหลือ

 

ข่าวเกี่ยวข้อง : พยาบาลร้องผู้บริหาร “สธ.-สภาการพยาบาล” ขอการดูแล หลังปฏิบัติงานติดเชื้อ บางรายเสียชีวิต!!