ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.มีมติขยายล็อกดาวน์ - เพิ่มจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็น 29 จังหวัด จาก 13 จังหวัด มีผล 3 ส.ค.นี้ ประเมินอีก 2 สัปดาห์หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น พร้อมขยายไปถึง 31 ส.ค.64

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ส.ค.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานผลการประชุม ศบค. กรณีการพิจารณาสถานการณ์และปรับมาตรการเพิ่มเติม ว่า ที่ประชุมมีมติในการยกระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร และการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด19 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดทั้งในครัวเรือน สถานประกอบการ และระบาดในวงกว้าง และเพื่อลดการเสียชีวิตจากโควิด และลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนักให้อยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้

โดยการยกระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยนั้น ได้มีการปรับสีพื้นที่ควบคุมโรคใหม่ ดังนี้

 -  ปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  จาก  13 จังหวัด เพิ่มเป็น 29 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี 

ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง

-   ปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดจาก 53 จังหวัด เป็น 37 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์

พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ

-   ปรับพื้นที่ควบคุม จาก 10 จังหวัด เป็น 11 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน และสุราษฎร์ธานี

สำหรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค “พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” นั้น แบ่งได้ดังนี้

-การจำกัดการเดินทาง คือ ห้ามออกนอกเคหสถาน 21.00 น.-04.00 น. งวดให้บริการขนส่งข้ามเขตจังหวัด การตั้งด่านสกัดระหว่างเขตจังหวัด

-การจัดกิจกรรมห้ามรวมคนมากกว่า 5 คน

-ร้านอาหารห้ามบริโภคในร้าน ขายได้แบบนำไปบริโภคที่อื่น เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. และยังคงงดจำหน่ายเครื่องดื่มสุราในร้าน

-ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า เปิดบริการเฉพาะร้านอาหาร เครื่องดื่มได้เฉพาะเดลิเวอรี ร้านเวชภัณฑ์ ซูเปอร์มาร์เก็ตเปิดได้ไม่เกิน 20.00 น.

-ร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงามยังต้องปิด

-สถานศึกษาห้ามใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับทันทีในวันที่ 3 ส.ค.2564 มีระยะ 14 วัน และจะประเมินอีกครั้งในวันที่ 18 ส.ค. หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น อาจพิจารณาขยายไปจนถึง 31 ส.ค.2564 ทั้งนี้ จะออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็วที่สุด อาจภายในคืนวันที่ 1 ส.ค.นี้

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org