มีความเชื่อเกี่ยวข้องกับ “ตากุ้งยิง” ที่ทั้งเรื่องจริงเท็จปะปนหรือทำให้เข้าใจผิดอยู่มากมาย ยกตัวอย่างที่เจอกันเป็นประจำคือ เป็นตากุ้งยิงเพราะแอบไปดูคนเปลือยผ้าหรือหนังโป็มา การส่งต่อความเชื่อแบบผิด ๆ ว่า ตากุ้งยิงเป็นโรคติดต่อได้ง่าย
แต่ในความเป็นจริงแล้วสาเหตุของโรคเกิดจาก การอักเสบของต่อมบริเวณรอบเปลือกตา เช่น ต่อมเหงือ ต่อมไขมัน มีสิ่งสกปรกหรือเชื้อแบคทีเรียเข้าไปอุดตัน หรือเกิดจากการคันแล้วขยี้ตาแรง ๆ จนทำให้บริเวณนั้นเกิดการบวมแล้วอักเสบนั่นเอง ส่วนการแพร่การะจายของโรค ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เห็นพ้องกันว่าความเสี่ยงที่โรคตากุ้งยิงจะแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งนั้นมีความเป็นไปได้น้อย และไม่มีทางที่เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคจะเดินทางจากตาของคนคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้ แต่เชื้อแบคทีเรียสามารถแพร่กระจายจากดวงตาข้างที่เป็นไปยังอีกข้างหนึ่งและส่วนอื่น ๆ ของดวงตาได้
ทางกรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ได้ออกมาเปิดเผยและยืนยันข้อเท็จจริงว่า ตากุ้งยิงไม่ใช่โรคติดต่อ มีสาเหตุเกิดจากเปลือกตาไม่สะอาด มีฝุ่นอุดตัน ขยี้ตา ใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่ไม่สะอาดเท่าที่ควร ใช้เครื่องสำอางแล้วล้างออกไม่หมด จากการขยี้ตาจนทำให้ต่อมที่เปลือกตา อุดตัน และเกิดการอักเสบตามมา โรคตากุ้งยิงมักจะมีอาการเคืองตา ปวดหนังตา เวลากลอกตาหรือหลับตา จะทำให้ปวด มีตุ่มบวมแดง หรือเป็นหนองที่เปลือกตา บางรายบวมมากจนตาปิด บางรายมีหนองไหลออกจากเปลือกตา หากหนองแตกในตาจะทำให้มีขี้ตาเป็นสีเขียว จึงขอแนะนำว่าควรพบจักษุแพทย์
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า ตากุ้งยิงเป็นโรคที่พบได้บ่อย เป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เกิดบริเวณเปลือกตา ซึ่งจะสังเกตได้จากการที่มีตุ่มแดงนูนขึ้นที่เปลือกตา มักจะมีอาการปวด ร่วมด้วย ตากุ้งยิง ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้บนผิวหนังของคนปกติอยู่แล้ว
ซึ่งในภาวะปกติ เชื้อนี้จะไม่ได้ก่อให้เกิดโรคอะไร แต่ถ้าหากเชื้อนี้เข้าไปสู่ภายใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบของ ตุ่ม ฝี หนอง ตากุ้งยิงโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
- External hordeolum เกิดการอักเสบของต่อมไขมันที่ผิวหนัง หรือรากขน เป็นตุ่มหนองที่บริเวณเปลือกตาด้านนอกซึ่งเป็นตุ่มหนอง แดง และเจ็บ
- Internal hordeolum เกิดการอักเสบของต่อมไขมันที่แถบเปลือกตาเป็นตุ่มหนองที่บริเวณเปลือกตาด้านใน ซึ่งเป็นตุ่มนูนแดง และเจ็บ
นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) ให้ข้อมูลเสริมว่า ในส่วนของอาการของตากุ้งยิง เมื่อเกิดอาการตากุ้งยิง เริ่มแรกจะมีอาการเจ็บ ๆ คัน ๆ บริเวณเปลือกตา ต่อมาจะเริ่มบวมแดง และจะเริ่มรู้สึกปวดบริเวณเปลือกตา หากกดลงไปบริเวณก้อนจะรู้สึกเจ็บ จะเริ่มเห็นเป็นหัวฝีหรือหัวหนองภายใน 4 - 5 วัน หลังจากนั้นหนองจะแตก และยุบไป ในกรณีที่หนองออกไม่หมด จะเกิดเป็นก้อนแข็งเป็นไตที่เปลือกตา ซึ่งจะค้างอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานานและอาจจะกลับมาอักเสบขึ้นอีกได้เป็นครั้งคราว แต่หากมีอาการปวดมาก และแนวโน้มอาการ ไม่ดีขึ้น มีอาการบวมแดงเป็นบริเวณกว้าง มีอาการตาพร่า หรือ มองเห็นไม่ชัด ควรพบแพทย์ และในกรณีดังกล่าวเหล่านี้ แพทย์อาจจะให้ยาปฏิชีวนะ หรือใช้เข็มเจาะตุ่มฝี เพื่อระบายหนองออก
ด้านแพทย์หญิงอรวีณัฏฐ์ นิมิตรวงศ์สกุล จักษุแพทย์ ให้ข้อมูลที่มีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกันว่า ตากุ้งยิง เป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เปลือกตา ซึ่งมักจะเกิดในคนที่ขยี้ตาบ่อย ๆ พบเจอฝุ่นละอองสกปรกเข้าตามาก ๆ และมาขยี้หรือจับตา เหมือนเด็ก ๆ ที่ชอบจับแก้มแล้วสิวขึ้น ซึ่งสามารถเป็นแล้วเป็นอีกได้ หากไม่ระวังและรักษาความสะอาดของมือก่อนที่จะมาสัมผัสตา คนไข้ที่เป็นภูมิแพ้ที่คันตาบ่อย ๆ หรือนอนดึก อดนอน ระคายเคืองตา ขยี้ตาก็ทำให้เป็นตากุ้งยิงได้บ่อย เวลาเป็นก็สามารถเป็นได้ทั้งเปลือกตาเลย คือบน ล่าง ซ้าย ขวา อาจเป็นได้พร้อมกันได้
ในส่วนของการรักษา คือ เมื่อเริ่มมีอาการจะเริ่มมีการบวมแดง เจ็บ ๆ เคือง ๆ ของเปลือกตา แนะนำให้รีบประคบอุ่นบ่อย ๆ อาจจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หรือ เจลร้อน เป็นต้น และห้ามขยี้ตา ให้ใช้ยาหยอดหรือยาฆ่าเชื้อแบบทาน ในบางรายอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยา สามารถหายเองได้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี
แต่ถ้าหากไม่รีบประคบและขยี้ตาอีก แล้วปล่อยให้บวมอักเสบจนขึ้นมาเป็นเม็ดแล้ว โดยส่วนมาก มักจะไม่หายเองต้องมาให้แพทย์เจาะเอาหนองออกหรือถ้าไม่เจาะบางรายอาจจะหายได้เองแบบหายสนิท แต่บางรายหายแล้วจะเป็นไตเป็นเม็ดเหมือนสิวอุดตัน ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย
และสุดท้ายอยากจะขอย้ำว่า ตากุ้งยิงไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะฉะนั้นการป้องกันไว้ไม่ให้เกิดย่อมดีกว่า คือหลีกเลี่ยงการสัมผัสเปลือกตาด้วยมือที่ไม่สะอาด และไม่ควรขยี้ตา การดูแลรักษาเปลือกตาด้วยการประคบอุ่น เช็ด ฟอกหรือประคบเปลือกตาทุกวัน จะช่วยป้องกันการเป็นตากุ้งยิงได้
- 23390 views