ชมรมโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลห่วงเด็กกว่า 2 แสนรายขาดแคลนหน้ากากอนามัยไปโรงเรียน

นายปกรณ์​ ศศิวัจน์ไพสิฐ​ ผู้อำนวยการ​โรงเรียนบ้านสว้า​ จ.น่าน​ ในฐานะประธานชมรมโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล​ เกาะ​ ภูเขา​ ให้ความเห็นว่า อุปสรรคในการเปิดเรียนเชิงสุขภาพไม่มีปัญหา​ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนใน​ จ.น่าน เนื่องจากวิถีชีวิตของชาวบ้านอยู่ในชุมชน​และเป็นชุมชนปิดไม่ได้คลุกคลีกับบุคคลภายนอก​ อีกทั้งเด็กส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์​เข็มแรกแล้ว​ โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลส่วนใหญ่พร้อมเปิดเรียนตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เพียงแต่ยังมีความไม่พร้อมบางอย่าง​ โดยเฉพาะแนวทางปฎิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ใช้ในการชะลอการระบาดของ โควิด-19 หรือ DMHTT ได้แก่การรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ วัดอุณหภูมิ ซึ่งอุปกรณ์นอกเหนือการเรียนการสอนที่ยังขาดแคลน​ เช่น​ อุปกรณ์การล้างมือ เช่นเจล​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้ากากอนามัยที่ยังต้องการอีกจำนวนมาก

“เรามีเด็กนักเรียนพื้นที่ห่างไกลประมาณ​ 2​ แสนคน​ จำนวนเปิดเรียน​ 100​ วัน​ หรือ​ 2 แสนคูณ 100​ เป็นจำนวนหน้ากากอนามัยที่เราต้องการเพราะหน้ากากอนามัยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แล้วทิ้ง​ เบื้องต้นเราใช้วิธีการให้ผู้ปกครองที่มีความพร้อมซื้อให้บุตรหลาน​ นอกจากนี้ใช้งบรายหัวของเด็กๆ​ ซึ่งก็ซื้อไม่ได้เยอะ​ โดยเจลล้างมือกับหน้ากากอนามัยก็ไม่เกี่ยวกับการศึกษา​ งบรายหัวที่ต้องนำมาบริหารจัดการทุกอย่าง​ ผมเป็นกังวลเพราะบางทีอยากเอางบรายหัวโฟกัสงานวิชาการเป็นหลัก​ แต่ถ้าเป็นลักษณะนี้คือบริหารทั่วไป​ เราจะไม่สามารถซัพพอร์ตเด็กได้ทั้งหมด หากท่านที่มีความประสงค์จะบริจาคสามารถติดต่อโดยตรงโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลหรือผ่านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา" ประธานชมรมโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล​ฯ​ กล่าว

นอกจากเจลล้างมือ​กับหน้ากากอนามัยแล้ว​ ผู้อำนวยการ​ รร.บ้านสว้า​ ยังกล่าวอีกว่า​ เนื่องจากขณะนี้โรงเรียนใน​ จ.เชียงใหม่​ ยังไม่สามารถเปิดเรียนแบบ​ On​ Site ได้​ อุปกรณ์การเรียนการสอน​ On​Line​ เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน

"จะเป็นไปได้หรือไม่​ เนื่องจากเด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลต้องการซิมโทรศัพท์​ อยากจะฝากแคมเปญเนื่องจากมีพื้นที่บางแห่งเราอยู่ในพื้นที่สูงซิมโทรศัพท์จะมีประโยชน์มาก​ อยากฝากโครงการโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตมือสองเพื่อน้องบนดอยสูงพร้อมซิม​ เด็กจะได้เรียนออนไลน์ได้​ บางทีเครือข่ายผู้ให้บริการมือถืออาจจะอยากทำ​ CSR ผมมีความเชื่อว่าคนไทยหลายคนมีโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้​ เราต้องการเครื่องพวกนี้เพื่อที่เด็กจะได้พูดคุยกับคุณครูได้แทนที่จะปล่อยทิ้งเป็นขยะอิเลคทรอนิกส์" ประธานชมรมโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล​ฯ​ กล่าว

ทั้งนี้​ นายปกรณ์​ ให้ความเห็นอีกว่า​ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด​ทำให้หลายฝ่ายตื่นตระหนกจึงอยากให้ทุกคนร่วมเป็นกำลังใจให้กันเพื่อผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้

"อยากให้ทุกคนให้กำลังใจกัน​ เหตุการณ์นี้เราต้องช่วยกันคนละไม้ละมือเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เหนือจะคาดเดาไม่เคยเกิดขึ้น​ ถ้าเราเอาสิ่งตื่นตระหนกเป็นตัวตั้งจะทำให้สังคมโกลาหลไปกันหมด​ แต่ถ้าเรามีสติค่อยๆคิดหาทางออกสังคมต้องอยู่กันอย่างนี้" ประธานชมรมโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล​ฯ​ กล่าว