อย่าตระหนก! ปัตตานีพบคนไทยติด "โอไมครอน" 1 รายเป็นการเดินทางมาจากตปท. ไม่ใช่ติดในจังหวัด

สสจ.ปัตตานีขออย่าตื่นตระหนก กรณีพบคนไทย 1 รายมาจากซาอุฯ ติด "โอไมครอน" ยังเป็นการนำเข้าเชื้อ ไม่ใช่ติดภายในประเทศ ขอคนปัตตานีเข้มมาตรการ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เช่นเดิม และขอคนที่ยังไม่ตัดสินใจรับวัคซีน ให้ติดต่อ รพ.ใกล้บ้าน รวมทั้งคนรับครบ 2 โดส ให้ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 กระตุ้นภูมิฯ  ลดความรุนแรงของโรคได้

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2564 งานประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ออกประกาศกรณี พบผู้ติดเชื้อโควิดฯ สายพันธุ์โอไมครอน รักษาตัวในจังหวัดปัตตานี  โดยระบุว่า 

ได้รับการประสานข้อมูลจากจังหวัดภูเก็ต ว่ามีคนไทยเดินทางกลับมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ลงเครื่องที่สนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2564  ได้มีการกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19  พบว่า มี 1 รายติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (ทราบผล 17 ธ.ค.64)

โดยผู้ติดเชื้อขอเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลโคกโพธิ์ ในกรณีนี้ ไม่ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอนในจังหวัดปัตตานี แต่เป็นการพบเชื้อจากการเดินทางเข้าประเทศ จากจุดคัดกรองด่านเข้าประเทศ 

จึงขอให้คนปัตตานี อย่าตื่นตระหนกกับกระแสข่าวนี้ แต่อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการฯ อย่างเคร่งครัดเช่นเดิม เช่นการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ทุกครั้งที่พบปะผู้คน เว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอร์และการรับวัคซีนป้องกันโควิดฯ ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ ลดอาการรุนแรงและลดโอกาสการเสียชีวิตจากโควิด-19

จึงขอเชิญชวนชาวปัตตานี ที่ยังไม่ตัดสินใจรับวัคซีนฯ ติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อขอรับวัคซีนฯ และขอให้ผู้ที่รับวัคซีนฯครบ 2 เข็มแล้ว ติดต่อขอรับการฉีดกระตุ้น (เข็มที่ 3) เพื่อการเพิ่มภูมิคุ้มกันฯร่างกาย ต่อไป
เพื่อความปลอดภัยของเราทุกคน 

ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org