ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.เผยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานข้อมูลล่าสุด (22 ธ.ค.64) พบโอไมครอน 104 ราย กำชับเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังสกัดเชื้อ ล่าสุดชะลอระบบ Test and Go แล้ววันนี้ถึง 4 ม.ค. พร้อมขอโรงแรมเข้มงวดมาตรการ หลังมีข่าวนักท่องเที่ยวหลุด พร้อมกำชับสื่อสารให้เข้าใจ เหตุตรวจเชื้อครั้งแรกเป็นลบ ปล่อยออก มีบางคนไม่สวมหน้ากากอนามัยถือว่าอันตรายมาก

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 ธ.ค.2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่า สถานการณ์โควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” (Omicron) ณ วันที่ 22 ธ.ค.2564 แพร่กระจายไปแล้ว 95 ประเทศ ระบาดในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 47 รัฐ คิดเป็น 73% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสหรัฐ โดยเพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้วอยู่ 12.6% นอกจากนี้ ประเทศอิสราเอล ได้ห้ามประชาชนเดินทางไป 10 ประเทศหลายทาง ได้แก่ เบลเยียม เยอรมนี ฮังการี อิตาลี โมร็อกโก โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ และตุรกี รวมถึงสหรัฐ แคนาดา หวังสกัดโอไมครอน และงดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนคนอิสราเอลจะเข้าประเทศก็ต้องกักตัวทุกรายแม้ฉีดวัคซีนครบแล้ว ขณะเดียวกันออสเตรเลียก็มีการแรพ่ระบาดของโอไมครอนเช่นเดียวกัน

“สำหรับสถานการณ์โอไมครอนในประเทศไทย วันนี้(22 ธ.ค.) ได้มีการรายงานจากนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยตัวเลขติดเชื้ออยู่ที่ 104 ราย โดยมีทั้งอยู่ในระบบการรักษา และมีบางส่วนหายดีออกจากรพ.แล้ว” พญ.สุมนี กล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการระงับการลงทะเบียนผู้เดินทางเข้าประเทศประเภท Test and Go และ Sandbox ชั่วคราวไปก่อน ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และการเข้ามาต้องกักตัว โดยมีผลแล้วตั้งแต่วันนี้(22 ธ.ค.) จนถึง 4 ม.ค.2564 ส่วนผู้ที่เดินทางเทสต์แอนด์โก ที่ได้รับอนุมัติแล้วก่อนหน้านี้ มีประมาณ 2 แสนคนยังเข้ามาได้ แต่มีมาตรการเพิ่มเติม คือ เมื่อมาถึงไทยโดยตรวจ RT-PCR เป็นลบ สามารถเดินทางต่อได้ แต่ต้องติดตามตัวตลอดเวลา เน้นย้ำต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ทุกคน และต้องตรวจPCR ซ้ำในวันที่ 5 หรือวันที่ 6 ก่อนครบ 7 วันกับรพ.รัฐหรือรพ.เอกชน ซึ่งค่าตรวจครั้งที่สอง รัฐจะออกให้ มาตรการดังกล่าว ทางศบค.จะติดตามอย่างใกล้ชิด จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 4 ม.ค.2565

“ส่วนที่มีรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวหลุดจากระบบติดตาม ขอให้ทุกหน่วยงาน โรงแรมที่รับนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฯลฯ ต้องเข้มงวดเป็นพิเศา เพราะขณะนี้นี้เราอยู่ระหว่างการสกัดกั้นโอไมครอน หากมีการระบาดในประเทศก็ต้องระบาดให้น้อยที่สุด”

พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า วันนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก โดยกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวคร่าวๆที่จะเดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ที่ประมาณ 10,787 คน ที่ภูเก็ตประมาณ 2,546 คน ที่ประชุม ผอ.ศบค.ชุดเล็กได้ให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จัดการศูนย์ปฏิบัติการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้เดินทางที่มาทางท่าอากาศยานทุกช่องทาง ให้ติดตามการเดินทางจนเข้าที่พัก และติดตามการตรวจครั้งที่สอง ให้ครบทุกรายในช่วง 7 วัน ซึ่งมีหน่วยงานเกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข การบินพลเรือน กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น รวมไปถึงผู้ประกอบการ โรงแรม และโรงพยาบาลคู่ขนานปฏิบัติงานร่วมกับโรงแรมทุกแห่งด้วย

“ที่สำคัญต้องสื่อสารแนวทางปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวทุกคน และต้องให้ตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนจึงจะให้ออกจากห้องพักได้ ทุกวันนี้ยังมีคนที่ยังไม่รอผลแต่ออกไปก่อน ซึ่งเสี่ยงมาก และเมื่อผลเป็นลบออกไปได้ แต่ระหว่างการเดินทางต้องปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรการความปลอดภัย ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพราะเรามีรายงานว่า นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทย เมื่อผลเป็นลบ ยังพบไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งถือว่าไม่ปลอดภัย เพราะตรวจครั้งแรกไม่พบ แต่ครั้งที่สองยังไม่ได้รับการตรวจ ยังเสี่ยงอยู่” พญ.สุมนี กล่าว

พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า ขอให้เข้มงวดมาตรการทุกมาตรการ อย่างคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้ชะลอก หรือยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะเดินทางไปประเทศทางยุโรป อเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง ทั้งนี้ ขอย้ำมาตรการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งมาตรการกลับภูมิลำเนา และมาตรการในการกลับเข้าสถานประกอบการ ที่ทำงาน (ตรวจATK ทั้งไปและกลับ) และหลังปีใหม่ ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐให้มีมาตรการเจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้าน Work From Home มากที่สุดในช่วงแรก เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด