ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยคืบหน้าข้อมูล 1 พ.ย.-30 ธ.ค.64 ตรวจเชื้อพบผู้ป่วยโอไมครอน 1,145 ราย ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ   620 รายและติดในปท. 525 ราย แนวโน้มในประเทศมากขึ้น มีการระบาดเป็นวง 2 วง 3 ส่วนเขตสุขภาพที่ 13 กทม.พบมากสุด รองลงมาเขตสุขภาพ 7 จ.กาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในประเทศไทย ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำการตรวจหาสายพันธุ์โควิด-19 ในผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงในประเทศ และคลัสเตอร์ใหญ่ๆ รวมถึงผู้ติดเชื้อบริเวณชายแดน ข้อมูลสะสมตั้งแต่เปิดประเทศ วันที่ 1 พ.ย. - 30 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรวม 1,145 ราย ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ   620 รายและติดในประเทศ 525 ราย

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มขึ้นวานนี้(30ธ.ค.)  211 ราย เป็นผู้มาจากต่างประเทศ 43 ราย ติดเชื้อในประเทศ  168 ราย ทั้งนี้ แนวโน้มพบว่าเจอการติดในประเทศมากกว่ามาจากต่างประเทศ ซึ่งการระบาดในประเทศเป็นวง 2 วง 3 น่าจะมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เขตสุขภาพที่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนมากที่สุด คือ เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร จำนวน  325 ราย เขตสุขภาพที่ 7 จำนวน  309 ราย พบที่ จ.กาฬสินธุ์ มากที่สุด และเขตสุขภาพที่ 11 จำนวน  128 ราย พบที่ จ.ภูเก็ต มากที่สุด

“การรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์โอไมครอน ใช้การดูแลไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งนี้ หากเราพบคลัสเตอร์เดียวกัน ที่มีผู้ติดเชื้อต้องสงสัยจำนวนมาก ก็อาจใช้วิธีสุ่มตรวจสายพันธุ์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจทุกราย เพื่อให้ทราบสถานการณ์เท่านั้น ไม่ต้องรู้ถึงระดับรายปัจเจกบุคคล” นพ.ศุภกิจ กล่าว

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org