ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาฯแพทยสภาเผยกรณีแพทย์ถูกโทรศัพท์หลอกลวงเร่งดำเนินการช่วยเหลือ ย้ำ! ฐานข้อมูลแพทย์ ปัจจุบันยังปลอดภัย 

พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์เฟชบุ๊ก ถึง “กรณีแพทย์ถูกโทรศัพท์หลอกลวง” ว่า ตามที่มีแพทย์แจ้งสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ว่าถูกโทรศัพท์หลอกลวง ว่าท่านตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน โดยมีคดีเลขที่ AAA อยู่ที่ DSI หรือ ตำรวจ รตต.BBB จาก สถานีตำรวจ CCC จับกุมคนร้ายได้ และ ตรวจพบสมุดบัญชี บัตรเครดิตชื่อของท่าน ให้ไปรายงานตัว เตรียมเอกสารมากมาย ขู่ในหลายประเด็น และหลอกลวง โอนเงิน ให้มิจฉาชีพนั้น
.
1. เลขาธิการแพทยสภาได้ดำเนินการหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยเปิดรับรายละเอียดผ่านกลุ่ม line และ facebook รับผิดชอบ คุณหมอโน๊ต ภาสกร วันชัยจิระบุญ ผู้ช่วยเลขาธิการ ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก เพื่อนำไปหารือกับ อธิบดี DSI ทั้งนี้ต้องขอบคุณผู้ให้ข้อมูลทุกท่าน และหากมีเบาะแสเพิ่มเติม ท่านยังสามารถ inbox ได้ที่คุณหมอภาสกรครับ
.
2. จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเป็นการดำเนินการโดยใช้ข้อมูลซ้ำๆกันและมีการแจ้งผู้ที่โทรไปหาว่าคุณ XXX มีคดีความ โดยยังไม่พบว่าระบุเป็นนายแพทย์หรือแพทย์หญิง แต่จะมีเนื้อหาคล้ายกัน ตามไดอะแกรมแนบ

ทั้งนี้แพทยสภาได้นำเรื่องหารือกับท่านอธิบดีกรม สอบสวนคดีพิเศษ นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ Triyarith Temahivong แล้ว พบว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมามีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก และเกิดขึ้นกับกลุ่มบุคคลในหลายอาชีพ ทั้งกลุ่มนักกฎหมายเอง ข้าราชการ เอกชน ทุกอาชีพ โดยมีผู้เสียหายจำนวนมาก แจ้งเหตุมายัง DSI จึงได้มีการสืบสวนและประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติจับกุมผู้กระทำผิดจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเครือข่ายผู้กระทำความผิด เพื่อดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดและยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดต่อไป
.
โดยมีข้อมูลเพิ่มเติม และแนวทางปฏิบัติดังนี้
.
ข้อ 1. จะไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐติดต่อพี่น้องประชาชนทางโทรศัพท์ให้ทำธุรกรรมทางการเงินหรือธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ หากเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะต้องมีหนังสือราชการเพื่อติดต่อ และนัดหมาย ณ สถานที่ราชการเท่านั้น
.
ข้อ 2. หากมีคนร้ายติดต่อมายังท่าน ให้พยายามขอข้อมูลในการติดต่อกลับ และอย่าได้ทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น และนำข้อมูลดังกล่าวไปแจ้งความพนักงานสอบสวน ท้องที่ที่ท่านอยู่เพื่อเป็นเบาะแสในการดำเนินคดีกับคนร้ายดังกล่าว รวมทั้งขอให้แจ้งดังกล่าวมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทางสายด่วน 1202 หรือร้องเรียนผ่านเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามร่องรอยคนร้ายโดยเร็วต่อไป
.
ข้อ 3. ในกรณีที่ท่านตกเป็นเหยื่อของคนร้ายโดยมีการโอนเงินเป็นที่เรียบร้อย ให้รีบแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุทันที และประสานธนาคารปลายทางที่โอนเงินไปให้ เพื่อติดตามร่องรอยทางการเงิน ต่อไป

3. กรณีความปลอดภัยของฐานข้อมูลของแพทยสภาปัจจุบัน ถูกดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่บน Government Data Center and Cloud service (GDCC) ระบบมาตรฐานภาครัฐ โดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมี นพ.อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กำกับดูแล และวางมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลภายใต้คำแนะนำ ของ Government Big Data Institute (GBDi) โดย นพ.ธนกฤติ จินตวร ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กำกับดูแล พร้อมมีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วพบว่าระบบความปลอดภัยยังสมบูรณ์ ไม่พบการรั่วไหลของข้อมูล ทั้งนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจจะตรวจสอบและกำกับอย่างเข้มข้นต่อไป โดยหากท่านใดพบจุดรั่วใดที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลแพทยสภา โปรดส่งมาที่สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา email tmc@tmc.or.th เพื่อการตรวจสอบจะเป็นพระคุณยิ่ง
.
4. สำนักงานเลขาธิการแพทยสภาขอขอบคุณสมาชิกที่แจ้งเรื่องเข้ามา และจะติดตามกรณีดังกล่าวต่อไปพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันให้มากขึ้นอีก โดยขอแสดงความห่วงใยยังเพื่อนแพทย์ และ ประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายในกรณีดังกล่าว ขอให้รีบแจ้ง DSI ดำเนินคดีตามขั้นตอนที่ท่าน อธิบดี DSI แจ้งไว้ และขอย้ำว่า ท่านอธิบดี DSI แจ้งว่าไม่มีให้ผู้ใดโทรแจ้งคดีต่างๆเพื่อโอนเงินแน่นอน โปรดอย่าหลงเชื่อ ทั้งนี้แพทยสภาจะประสานงานใกล้ชิดกับ DSI ต่อไป โดยเฉพาะผู้เสียหายที่แจ้งเข้ามาครับ
.