ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา คาดว่า ภายในช่วงเวลาก่อนถึงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นของปี 2565 นี้ ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศเพื่อรองรับการท่องเที่ยวซึ่งขณะนี้หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการต่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น หากประเทศไทยยังไม่ปรับมาตรการรองรับก็อาจทำให้เสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว

“คาดว่าทางภาครัฐจะต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบ 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน เพราะหลายประเทศโดยเฉพาะเพื่อนบ้านมีการผ่อนปรนเงื่อนไขกันหมดแล้วและจะสูญเสียนักท่องเที่ยวหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้ เพราะมีความกังวลในการตัดสินใจมาประเทศไทย”นายพงศกรกล่าว

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงากล่าวว่า ยกตัวอย่างนักท่องเที่ยวจากสวิตเซอร์แลนด์จะเดินทางมาไทย ต้องตรวจ RT-PCR ต้นทางก่อนขึ้นเครื่องบินอยู่แล้ว แต่มีความกังวลว่าหากมาถึงไทยแล้วเกิดผลเป็นบวกขึ้นมา กลายเป็นว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวของครอบครัวก็สลายไปเลย แต่ถ้าไปสิงคโปร์มีผลตรวจต้นทางเป็นลบแล้วไม่จำเป็นต้องตรวจซ้ำก็ทำให้ลูกค้าสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องกักตัวและถ้ากักตัวในโรงแรมประกันไม่จ่ายต้องเข้าพักในโรงพยาบาลเท่านั้น

 “สิ่งที่อยากวิงวอนรัฐบาลคือ เราอาจจะต้องดูประเทศอื่นๆ หลายประเทศ ถ้าตรวจจากต้นทางแล้วผลเป็นลบน่าจะเข้ามาเที่ยวในบ้านเราได้โดยไม่ต้องตรวจซ้ำ รอบบ้านตอนนี้เขาผ่อนปรนกันหมดแล้ว จริงๆ เราอาจไม่พูดไม่ได้ว่าต้องการ near normal แต่ต้องการเป็น normal ไปเลย กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติเลย หรืออย่างน้อยก็ตรวจจากต้นทางถ้าผ่านก็ท่องเที่ยวได้เลย” นายพงศกร กล่าว

ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา ย้ำว่าภาครัฐต้องรีบผ่อนปรนเงื่อนไขที่เป็นข้อจำกัดอยู่ให้เร็วที่สุดยิ่งดี หรือถ้าจำเป็นต้องขยายเวลาออกไปก็ควรเกิดขึ้นหลังสงกรานต์นี้ เพราะการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ 2 สัปดาห์แต่อาจวางแผนกัน 3-4 เดือน จึงต้องให้เวลาในการทำการตลาดและใช้เวลาตัดสินใจ

“ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดต่างประเทศกลับมาคือการลดเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศ ถ้าทำได้เชื่อว่าที่เหลือภาคเอกชนสามารถผลักดันร่วมกับททท.ไปต่อได้แน่นอน”

ทั้งนี้จังหวัดพังงาเตรียมจัดโครงการ “พังงาพร้อม มิวสิค เฟสติวัล” เพื่อประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่าทั้งประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดพังงามีความพร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยวในไฮซีซั่นนี้ ซึ่งคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะไม่ต้องตรวจ RT-PCR แล้ว