ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” ตอบปมผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.ชูนโยบายถอดหน้ากากอนามัยภายใน 90 วัน ชี้หากถึงตอนนั้นต้องดูตามสถานการณ์ มีศบค.หรือไม่ เพราะผู้ว่าฯ เป็นหนึ่งในศบค. ส่วนสธ.ยืนยันเตรียมพร้อมระบบดูแลรักษา ยึดหลัก “3 พอ” คือ เตียง ยา หมอ

 

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 เม.ย. 2565  ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการดีเบตว่าหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จะทำให้เกิดการถอดหน้ากากอนามัยภายใน 90 วัน ว่า นโยบายนี้ก็ต้องดูว่า ณ วันนั้นยังมี ศบค.อยู่หรือไม่ ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. ก็เป็นกรรมการท่านหนึ่งใน ศบค.เช่นกัน ซึ่งสามารถเสนอมาตรการต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาได้ เมื่อเสนอแล้ว กระทรวงสาธารณสุขอาจจะเห็นด้วยหรืออาจจะมีข้อโต้แย้ง ซึ่งก็เป็นไปตามหลักวิชาการ ไม่มีปัญหาอะไร ใครคิดอะไรที่เป็นประโยชน์ ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับอยู่แล้ว และมาหารือกัน

นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งนี้ เรื่องหน้ากากอนามัยก็ต้องดูว่า ไม่ได้ป้องกันแค่โควิด - 19 อย่างเดียว แต่ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจต่าง ๆ ได้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาสามารถป้องกันได้ ลดอัตราการป่วยตรงนี้ลงได้จำนวนหนึ่ง ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัยก็ถือว่ามีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม วันนี้การจะไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่นทุกคนได้ ประชาชนรับภูมิคุ้มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการพิสูจน์ว่าติดเชื้อไม่มีความรุนแรง ยกเว้นผู้ที่มีความเสี่ยง กลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เพราะฉะนั้นอาจจะมีการรับฟังได้ แต่การจะใส่หรือไม่ใส่หน้ากากอนามัยถือเป็นความสมัครใจ เช่นที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยมีกฎ ไม่เคยมีบทลงโทษผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ดังนั้น หากถึงเวลาก็อยู่ที่ใครจะใส่ ยกเว้นจังหวัดหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่จะออกกฎเกณฑ์กัน ซึ่งหากผู้สมัครท่านใดได้เป็นผู้ว่ากทม. ก็มีอำนาจตรงนั้น อยู่ที่ว่ากฎหมายเอื้อให้ท่านทำได้หรือไม่ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขก็เตรียมเรื่อง “3 พอ” คือ เตียงพอ ยา วัคซีนพอ และหมอพอ