ภาคเอกชนคาดฝีดาษลิงไม่กระทบท่องเที่ยว แต่รัฐต้องเตรียมการรองรับหากเกิดเหตุเช่นนี้อีก

นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวจะไม่ได้รับผลกระทบจากการตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรรายแรกในไทย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่รุนแรงเหมือนโควิด อย่างไรก็ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก ( WHO ) อาจมีผลต่อกับนักเดินทางบางกลุ่ม ซึ่งอยากให้ทางรัฐบาลเตรียมมาตรการรองรับล่วงหน้ากรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพื่อการบริหารจัดการอย่างทันท่วงที

ด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่าจากการตรวจสอบต้นทางผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรมาจากกลุ่มแอฟริกา ซึ่งตลาดต่างประเทศของจังหวัดพังงาแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวจากลุ่มนี้เลย แต่ก็ไม่ประมาทได้หารือและกำชับกับทางสาธารณสุขจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ช่วยเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ หากพบผู้มีอาการน่าสงสัยต้องรีบแจ้งทันที

“เราวางกลไกเครือข่ายในพื้นที่ไว้ดีอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าทุกโรงแรมเข้าใจตรงกันหมดและไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้าเกิดแล้วก็ต้องมีแผนรองรับ เข้าถึงและควบคุมดูแลการแพร่อย่างไร ซึ่งกระบวนการไม่แตกต่างไปจากโควิด-19 พร้อมรับมือเต็มที่” นายจำเริญ ยืนยัน

ผู้ว่าฯพังงา เสริมด้วยว่าการหลบหนีของผู้ป่วยชาวไนจีเรียถือเป็นบทเรียนเกี่ยวกับการเฝ้าระวังที่ต้องกระตุ้นกันอีกครั้งหลังมีการผ่อนคลายมาตรการลงตามสถานการณ์ที่ดี แต่หลักใหญ่ใจความสำคัญคือการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวว่าหากมีอาการควรรีบแจ้งทันทีและสร้างความเข้าใจให้ชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการดูแลรักษา โดยไม่หวั่นจะกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยว ขออย่าตื่นตระหนกและมีวิธีในการจัดการปัญหาหากเกิดเหตุขึ้น ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว