ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) (ศบค.) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการพำนักของผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง และเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ดังนี้

1. ขยายระยะเวลาพำนักสำหรับผู้ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราในการเข้าประเทศ (ผ.30) ทั้งที่ไทยให้แต่ฝ่ายเดียว และที่มีความตกลงระหว่างกัน จากไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน (ผ.45)

2. ขยายระยะเวลาพำนักสำหรับผู้ได้รับ Visa on Arrival จากไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน

ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 - 31 มีนาคม 2566 โดยมอบหมายกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการตามมติ ศบค. ต่อไป

โฆษกประจำสำนีกนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลมุ่งหาแนวทางและพิจารณามาตรการต่าง ๆ ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลก และสถานการณ์ในประเทศ เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขอย่างรอบคอบ

“จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2565 นี้ รวมแล้วตอนนี้มีมากกว่า 4 ล้านคน นับเป็นสัญญาณเชิงบวก สะท้อนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย ซึ่งถือว่าเป็นผลสืบเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงรุกของรัฐบาล พร้อมกันนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาหาแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน ในปีนี้ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย สปป.ลาว สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร”นายอนุชากล่าว