ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดสธ.เรียกประชุมองค์กรวิชาชีพต่างๆ  40 ชมรม  12 สมาคม 8 สภาวิชาชีพ และ 4 สหภาพองค์กร ร่วมแลกแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนางานด้านสาธารณสุข พร้อมออกแถลงการณ์ร่วม 7 ข้อ ทั้งประเด็นบุคลากร อัตรากำลัง สถานที่ทำงานปลอดภัย ค่าตอบแทนเป็นธรรม ฯลฯ พร้อมเร่งติดตามบรรจุข้าราชการโควิดรอบสอง

 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ตุลาคม ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนางานด้านสาธารณสุข โดยเชิญผู้แทนสมาคม ชมรม สภาวิชาชีพ สหภาพ/สหพันธ์ ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป เข้าร่วมประชุม  โดยในการหารือส่วนใหญ่เป็นประเด็นขอความก้าวหน้าในวิชาชีพ ประเด็นการติดตามบรรจุข้าราชการโควิดรอบสอง การกำหนดอัตรากำลัง ค่าตอบแทน สวัสดิการต่างๆ เป็นต้น

ต่อมาเวลาประมาณ 11.45 น. นพ.โอภาส พร้อมวิชาชีพต่างๆ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมหารือ ว่า วันนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เชิญองค์กรวิชาชีพต่างๆ 40 ชมรม  12 สมาคม 8 สภาวิชาชีพ และ 4 สหภาพองค์กรมาร่วมประชุมปรึกษาหารือการทำงานร่วมกันในปีงบประมาณ 2566 เพื่อขับเคลื่อนการทำงานนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยจากการหารือกันพบว่ามี 7 ประเด็นหลัก

1.บุคลากร อัตรากำลัง การบรรจุ และภาระงาน 2.สถานที่ทำงาน สิ่งแวดล้อมให้ม่ความปลอดภัยมากขึ้น เช่นระบบระบายอากาศ การป้องกันการติดเชื้อในรพ. และความปลอดภัยอื่นๆ 3.ระบบวิธีการทำงาน โดยนำดิจิทัลมาใช้ทำงานมากขึ้น 4. ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม สวัสดิการต่างๆ บางส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขทำได้ก็จะเร่งทบทวน บางส่วนต้องผลักดันข้อกฎหมายหรือประเด็นอื่นๆ ก็จะดำเนินการร่วมกัน

5.ถ่ายโอนภารกิจ การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งเห็นต้องกันว่า ประชาชนต้องไม่ได้รับความเดือดร้อน 6.การดูแลการเข้าถึงสุขภาพของประชาชน ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางต่างๆ และ 7.ทุกองค์กร วิชาชีพ ชมรม สภาวิชาชีพ และสหภาพต่างๆจะต้องมีการประชุมหารือในรายละเอียด และหารือภาพใหญ่ในอนาคต

“สุดท้ายเราแถลงการณ์ร่วมกันว่า ขอแสดงเจตจำนงในการทำงานร่วมกัน โดยน้อมนำพระราชดำรัสสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก องค์บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขไทย ที่ให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นกิจที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง เป็นปณิธานของพวกเรา และให้ยึดถือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก จะหลวมรวมเป็นหนึ่งเดียว รวมพลังขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขด้วยความสามัคคีมีวินัย ความไว้เนื้อเชื่อใจในการสนับสนุนระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็ง มีความมั่นคงในสุขภาพมากขึ้น” ปลัด สธ. กล่าว

*** ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีการบรรจุข้าราชการรองสอง จะมีการติดตามต่ออย่างไร เนื่องจากขณะนี้ยังติดอยู่ที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.  

นพ.โอภาส กล่าวว่า เข้าใจว่าหลายเรื่องค้างอยู่ เพราะหลายเหตุผล ทั้งเรื่องสถานการณ์โควิด หรือการขาดการประสานงาน แต่ตอนนี้ตนได้ทบทวนในเรื่องต่างๆแล้ว และจะนำเรื่องมาติดตาม ซึ่งหลายเรื่องที่เป็นส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ก็ทำได้เลย เช่น การปรับค่า FTE  หรือภาระงานของบุคลากร    ส่วนค่าตอบแทนค้างคาอยู่ ที่เป็นหน้าที่กระทรวงฯก็จะเร่งดำเนินการ แต่ส่วนไหนเกินอำนาจหน้าที่กระทรวง เช่น ต้องไปถึงหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ก็จะร่วมกับวิชาชีพเพื่อเกิดพลังในการขับเคลื่อนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงาน ในการประชุมมีการเรียกร้องประเด็นต่างๆ อาทิ  “ทันตแพทยสภา”  เสนอเรื่องการกำหนดสัดส่วนทันตแพทย์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระบบปฐมภูมิที่ปัจจุบันมีแต่ทันตาภิบาล  ด้าน “สภาการพยาบาล” ขอผู้บริหารช่วยเรื่องปัญหาที่พยาบาลมีภาวะติดเชื้อทีบี ขอให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น  

“ชมรมรังสีการแพทย์”  ถือเป็นวิชาชีพที่ขาดแคลนหลายมหาวิทยาลัยให้ความร่วมมือให้มีนักเรียนทุนแต่ปัญหาคือเมื่อจบแล้วกลับไม่มีตำแหน่งรองรับให้ถูกรับราชการก็แค่ลูกจ้างรายวันรายเดือน จึงขอผู้บริหารช่วยดูแลตรงนี้  นอกจากนี้  “นายกสมาคมบริหารงานทั่วไป” ซึ่งเป็นสมาคมที่ดูแลภาพรวมของแบคออฟฟิศทั้งหมด  โดยกลุ่มแบคออฟฟิส ทำงานมาตลอด แต่ความก้าวหน้าไม่มี หรือการบรรจุข้าราชการโควิด19 ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน กระทั่งค่าจ้างก็ต่ำกว่าเอกชน

“กลุ่มนักวิชาการสาธารณสุข”  ขอให้ช่วยติดตามประเด็นกำหนดวิชาชีพ “นักสาธารณสุข” ปรับตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขเป็นวิชาการกรณีพิเศษ และการติดตามบรรจุข้าราชการโควิดรอบสอง  

ทั้งนี้ องค์กร ชมรมต่างๆ ที่เข้าร่วม อาทิ ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแห่งประเทศไทย ชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย ชมรม รพ.สต.แห่งประเทศไทย ชมรมนักจิตวิทยา สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชมรมพยาบาลจิตเวชและยาเสพติด สป. ชมนมนักกายภาพบำบัด ชมรมนักเทคนิคการแพทย์ ชมรมนักวิชาการสาธารณสุข(ประเทศไทย) ชมรมลูกจ้างแพทย์แผนไทย(ประเทศไทย) ชมรมนายช่างเทคนิคสาธารณสุข นายกสมาคมหมออนามัย สมาคมลูกจ้างส่วนราชการสาธารณสุข สมาคมเวชสถิติแห่งประเทศไทย สมาคมบริหารงานทั่วไป ชมรมทันตแพทย์ ชมรมอดีตพนักงานของรัฐ สังกัด สธ. ชมรมเวชกิจฉุกเฉินแห่งประเทศไทย  สมาคมเครือข่ายหมออนามัย สหพันธ์Back office สภาการสาธารณสุขชุมชน สภาการพยาบาล แพทยสภา ทันตแพทยสภา  ฯลฯ 

 

(ข่าวเกี่ยวข้อง : ปลัดสธ.มอบนโยบาย รพ.ทุกแห่งเคลียร์หนี้สินให้หมด โดยเฉพาะอันไหนค้างบุคลากรต้องให้เสร็จภายใน 1 เดือน)

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org