ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"นพ.ยง ภู่วรวรรณ" เผยผลศึกษาเด็กนักเรียนประถมศึกษาและอนุบาล ส่วนใหญ่ติดโควิดแล้ว 80% และได้รับวัคซีนแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่มีภูมิต้านทาน แม้มีโอกาสติดเชื้อ แต่อาการไม่รุนแรง ดังนั้น เด็กกลุ่มนี้ควรเลิกใส่หน้ากากอนามัย เพราะการใส่ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ และไม่สามารถที่จะใส่ได้แบบถูกวิธีในการป้องกัน ยกเว้นการอยู่ในรถประจำทาง รถไฟฟ้า หรือห้างที่เป็นสถานที่ปิด หรือไปโรงพยาบาลยังต้องสวม

 

เมื่อวันที่ 6 มกราคม ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีให้เด็กนักเรียนอนุบาลหรือประถมศึกษาตอนต้นเลิกใส่หน้ากากอนามัย ระบุว่า

โควิด 19 เด็กนักเรียนอนุบาลหรือประถมตอนต้น ควรเลิกใส่หน้ากากอนามัย

จากการศึกษาที่ศูนย์ไวรัส ศึกษาเด็กนักเรียนประถม และอนุบาล ส่วนใหญ่ติดเชื้อ covid19 ไปแล้วถึงร้อยละ 80 และได้รับวัคซีนไปแล้วจำนวนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่มาก ทำให้เด็กส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มีภูมิต้านทาน ที่เกิดจากการติดเชื้อ มาแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสติดโรคซ้ำ แต่อาการจะไม่รุนแรง ทุกอย่างจะเป็นไปตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจ

เราพบว่าเด็กในกลุ่มนี้ 1 ใน 3 ไม่มีอาการของโรค ตรวจพบการติดเชื้อได้จากการตรวจเลือด ในระบบภูมิต้านทาน anti nucleocapsid

การใส่หน้ากากอนามัยในเด็กเล็ก ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ และไม่สามารถที่จะใส่ได้แบบถูกวิธีในการป้องกัน

การเรียนรู้ของเด็กในวัยนี้จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเรียนรู้ทั้ง verbal และ nonverbal หรือภาษาท่าทาง การแสดงออกทางอารมณ์ในท่าทางก็มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ด้วยเช่นกัน

โรค covid-19 อยู่ในขาลง และการพบในเด็กขณะนี้น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นไปหมดแล้ว

ดังนั้นเมื่อคำนึงถึงผลได้ผลเสียแล้ว ในเด็กนักเรียนอนุบาลและประถม สามารถที่จะเลิกหน้ากากอนามัยได้แล้ว โดยเฉพาะในโรงเรียน ยกเว้นการอยู่ในรถประจำทาง รถไฟฟ้า หรือห้างที่เป็นสถานที่ปิด หรือไปโรงพยาบาล

 

ยง ภู่วรวรรณ

ราชบัณฑิต

6 มกราคม 2566