ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เป็นเวลากว่าสามปีแล้วที่เราอยู่กับโควิด-19 แต่ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้นักวิจัยต้องเกาหัว อย่างแรกเลยคือ อาการลองโควิด เพราะที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับอาการนี้มากนัก รวมทั้งคำถามที่ว่าลองโควิดจะเป็นนานแค่ไหน

ที่มีการรวบรวมไว้คือพบอาการลองโควิดกว่า 200 อาการ และคาดว่ามีประชากรทั้วโลกอย่างน้อย 65 ล้านคนมีอาการลองโควิด และตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน

ล่าสุดผลการศึกษาของทีมนักวิจัยจากอิสราเอลที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ BMJ เมื่อเดือนมกราคมระบุว่า อาการลองโควิดส่วนใหญ่จะหายไปภายใน 1 ปีสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนแล้วมีความเสี่ยงเกิดอาการหายใจลำบากน้อยกว่าผู้ที่ไม่ฉีด และเด็กมีปัญหาสุขภาพน้อยกว่าผู้ใหญ่และจะหายจากอาการเหล่านั้นภายใน 1 ปี

อย่างไรก็ดี การวิจัยครั้งนี้ทำขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม 2020 ถึงตุลาคม 2021 ซึ่งครอบคลุมเฉพาะเชื้อสายพันธุ์ก่อนๆ รวมทั้งเดลตา และไม่รวมสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้

อีกหนึ่งงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Nature Reviews Microbiology เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมาระบุว่า ลองโควิดทำให้เกิดอาการผิดปกติและเกิดพยาธิสภาพได้ในทุกระบบของร่างกาย ตั้งแต่ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร สมองและระบบประสาท ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบต่อมไร้ท่อ และระบบสืบพันธุ์

งานวิจัยชิ้นนี้ยังระบุว่า ระยะเวลาที่อาการจะปรากฏนั้นขึ้นอยู่กับบุคลและชนิดของอาการ อาการเกี่ยวกับระบบประสาทจะเริ่มปรากฏหลังติดเชื้อหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน และ 43% ของกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับกระบวนการคิด รายงานว่าอาการปรากฏขึ้นหลังจากติดเชื้ออย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยที่อายุน้อยจะปรากฏอาการช้ากว่า

นอกจากนี้ยังพบว่า อาการเกี่ยวกับระบบประสาทหลายอาการจะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไปและมีแนวโน้มคงอยู่นานกว่า ขณะที่อาการเกี่ยวกับทางเดินอาหารและการหายใจมีแนวโน้มที่จะกลับคืนสู่สภาพปกติ ส่วนอาการปวดข้อต่อ กระดูก หู คอ และหลัง ส่วนใหญ่จะปรากฏขึ้นหลังผ่านไป 1 ปีมากกว่าจะแสดงอาการใน 2 เดือน เช่นเดียวกับความรู้สึกสัมผัสผิดเพี้ยน (paresthesia) ผมร่วง ตามัว และขาบวม

ส่วนอาการผิดปกติที่เกิดจากการรับรู้กลิ่น และรับรู้รสที่ผิดเพี้ยนโดยเฉลี่ยนจะปรากฏขึ้น 3 เดือนหลังจากติดเชื้อครั้งแรก  ขณะที่อาการเกี่ยวกับระบบประสาทอื่นๆ จะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

มีเพียงผู้ที่มีอาการลองโควิดส่วนน้อยเท่านั้นที่หายเป็นปกติ โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า 85% ของผู้ป่วยที่ปรากฏอาการลองโควิด 2 เดือนหลังจากการติดเชื้อครั้งแรกรายงานว่ามีอาการอยู่ราว 1 ปีหลังจากอาการลองโควิดเริ่มปรากฏ ส่วนผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการอ่อนล้าเรื้อรัง (CFS) และระบบประสาทอัตโนมัติเสียการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นตลอดชีวิต

ที่สำคัญคือ การออกกำลังกายเป็นอันตรายสำหรับผู้ป่วยลองโควิดที่มีอาการ CFS หรือ PEM (อาการที่แย่ลง หลังจากออกแรงทางกายและการใช้พลังงานในการคิดเพียงเล็กน้อย) โดยงานวิจัยผู้ป่วยลองโควิดชิ้นหนึ่งพบว่า การออกกำลังกายทำให้อาการลองโควิดแย่ลงในผู้ป่วย 75%

อีกหนึ่งความคืบหน้าคือ องค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ เสนอโรดแม็พใหม่สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเอกสารสรุปที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคมระบุว่า จะมีการอัพเดตสูตรวัคซีนทุกปีเพื่อให้ทันกับการพัฒนาของไวรัส แล้วเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับปีนั้นๆ ซึ่งเหมือนกับกระบวนการอัพเดตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบัน แต่ประชาชนส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มเดียวเพื่อฟื้นฟูภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ส่วนผู้สูงอายุและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจได้รับ 2 เข็ม

 

ภาพ: https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Coughing_icon.svg