ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"หมอประกิต" ขอบคุณหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ช่วยกวาดล้าง "บุหรี่ไฟฟ้า" ทั้งลักลอบนำเข้าและตั้งขาย ห่วงบุคลากรต่อสู้ไม่เพียงพอ เสนอตั้งทีมเฉพาะกิจกวาดล้างโดยเฉพาะ กำหนดนโยบาย ระดมคนและงบประมาณให้เพียงพอ วอนพรรคการเมือง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ยึดจุดยืนสุขภาพ เดินหน้าแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง 

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ "บุหรี่ไฟฟ้า" ถือว่ากำลังระบาดอย่างมากในสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งกลุ่มธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้ามีความพยายามเคลื่อนไหวให้ยกเลิกกฎหมายห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้มานานตั้งแต่ปี 2557 เพื่อปกป้องและคุ้มครองสุขภาพของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณและขอชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรมศุลากร และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีการกวาดล้างอย่างจริงจังและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยมีการบุกจับกุมผู้ที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าและผู้ลักลอบหรือแอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามา แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการควบคุมและเอาผิดผู้กระทำความผิด เนื่องจาก สคบ. มีบุคลากรน้อยมาก และตำรวจก็มีภารกิจที่มากเช่นกัน 

"ผมขอชักชวนให้ผู้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าให้มากขึ้นและต่อเนื่อง โดยเสนอให้ตั้งกลุ่มเฉพาะกิจเพื่อกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า และมีการสนับสนุนทั้งนโยบายที่ชัดเจน เสริมกำลังคน ส่งงบประมาณให้เพียงพอสำหรับดำเนินการ" ศ.นพ.ประกิตกล่าว 

ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ในช่างการหาเสียงเลือกตั้ง จึงขอให้พรรคการเมืองต่าง ๆ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงใกล้เลือกตั้งใหญ่ ช่วยกันสนับสนุนนโยบายห้ามนำเข้าและห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการแสดงความห่วงใยต่อสุขภาพ เอื้ออาทรต่ออนาคตของเด็กและเยาวชนไทย ให้รอดพ้นจากการเสพติดนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าที่มีผลวิจัยยืนยันชัดเจนว่า ส่งผลกระทบและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ทำให้มีการติดและสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น รวมถึงหันไปสูบบุหรี่ธรรมดา หรือสูบทั้งสองแบบก็ยิ่งส่งผลร้ายต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น