ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผอ.รพ.สต. เผย ควรมีนโยบายการร่วมใช้ ร่วมแชร์ ร่วมรับผิดชอบทั้งภาครัฐ-เอกชน , เงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากการให้บริการอย่างน้อยให้เพิ่มเป็น 5 เท่า ,นโยบายดูแลบุคลากรเก่า-ใหม่ ให้สมดุลและเท่าเทียม  ด้าน อสม. ชี้ ควรมีนโยบายสวัสดิการครอบครัวอสม. - นโยบายสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ และผลักดันเรื่องค่าป่วยการด้วย

หลังจากผ่านการเลือกตั้งมาเกือบเดือนกระแสการจัดตั้งรัฐบาลยังคงมีคำถามมากมายอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับเรื่องนโยบายต่างๆที่ พรรคการเมืองได้นำเสนอมา อาทิ นโยบายด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว Hfocus ได้สัมภาษณ์ ผอ.รพ.สต. และ อสม. โดยตั้งคำถามว่า อยากได้ รมว.สธ.ที่มีนโยบายแบบไหน?

วันที่ 26 พ.ค. 2566  นายมานพ ผสม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ผอ.รพ.สต.หนองพะลาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า นโยบายสาธารณสุขที่ควรจะเป็น...ทั้งนี้เรามองทั้งหมด 4 ด้าน คือ 1. ด้านวิสัยทัศน์ของบุคคลที่ได้รับตำแหน่ง รมว.สธ. ควรยึดมั่นในความสุขความสมดุลความสงบของภาพรวมระดับประเทศ มีความมั่นคงในสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ มีทัศนคติที่ดีต่อผู้รับบริการต่อบุคลากร มีความเสมอภาคเท่าเทียม และสามารถทำให้ประชาชนช่วยเหลือตนเองได้มากกว่าพึ่งโรงพยาบาล มีนโยบายที่ยืดหยุ่นสามารถปรับสภาพได้แต่ละพื้นที่แต่ละปัญหา 2. ด้านหน่วยบริการ คือ นโยบายอันไหนที่ดีอยู่แล้วก็สนับสนุนให้มันคงอยู่และพัฒนาให้ยั่งยืนต่อไป และพัฒนาการเชื่อมต่อข้อมูลของสุขภาพประชาชนให้เป็นหนึ่งอันเดียวกัน รวมทั้ง ควรมีนโยบายการร่วมใช้ ร่วมแชร์ ร่วมรับผิดชอบ ทั้งภาครัฐและเอกชน  , นโยบายเรื่องปรับระบบระเบียบการเงินพัสดุให้เป็นปัจจุบันให้ทันสมัยมากขึ้น

3. ด้านผู้รับบริการ คือ มันมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งตนเองได้ในยามจำเป็น ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นหน้าที่ของหมอหรือพยาบาลอย่างเดียว ย้ำอีกครั้งว่า นโยบายไหนที่มีและดีอยู่แล้วให้สนับสนุนให้ยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้นโยบายที่ประกาศออกมาควรได้รับความเห็นชอบจากบุคลากรที่เกี่ยวข้องหรือ โรงพยาบาลชุมชน ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่หน้างานด้วย ว่ามีความพร้อมหรือไม่ 4. ด้านบุคลากร คือ ควรมีนโยบายดูแลบุคลากรเก่าและบุคลากรใหม่ให้สมดุลและเท่าเทียม และการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ควรคำนึงถึงสถาบันการศึก ว่า ผลิตเพียงพอหรือมากเกินไปหรือไม่ เพื่อให้บุคลากรที่จบออกมาจะได้มีคุณภาพในการให้บริการประชาชน และควรมีนโยบายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จากการให้บริการ อย่างน้อยให้เพิ่มเป็น 5 เท่า สุดท้ายปัญหาที่ยังคงมีมาอยู่ต่อเนื่องในปัจจุบัน ให้รีบแก้ไขให้เรียบร้อยและวางแผนอนาคตข้างหน้าไปด้วย อาทิปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำ เป็นต้น

ด้าน นางภวันรัตน์ อินพรมพะเนาว์ ประธานอสม. รพ.สต.หนองพะลาน กล่าวว่า อยากให้เห็นความสำคัญของ อสม. ให้มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โควิดหรือการตรวจสุขภาพประชาชน การสังเกตการณ์ ทุกอย่าง อสม. ก็ทำหน้าที่มาตลอด อยากให้มีนโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการครอบครัว อสม. ไม่ใช่แค่ดูแล อสม. เพียงคนเดียว สุดท้าย อยากให้เพิ่มเงินเดือน อสม. เป็น 5,000 บาทได้ก็ยิ่งดี เพราะ 2,000 บาทยังน้อยไป

ด้าน นางเจือ เพ็ชรจีนพะเนา อสม.บ้านหนองพะลาน ต.หนองระเวียง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากสถานการณ์โควิด 2 ปีที่ผ่านมา อสม. ทำงานหนักมาก อยากให้พลักดันนโยบายในเรื่องค่าป่วยการ ค่าตอบแทนให้มากขึ้น และ นโยบายเกี่ยวกับการสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ที่บางชุมชนไม่เพียงพอเวลาลงพื้นที่ตามหมู่บ้าน อาทิ เครื่องวัดความดัน ,เครื่องชั่งน้ำหนัก เป็นต้น

ขณะที่ นางคำพอง โคตรสมบัติ ประธานอสม. ตำบลวารีสวัสดิ์ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า  ปัจจุบันการทำงานสะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากมีเครื่องมือติดต่อสื่อสารที่ง่ายต่อการเข้าถึงในการเรียนรู้ ตั้งแต่มีโรคระบาด covid เข้ามานั้น ส่งผลให้การทำงานของอสม. เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงพื้นที่ ที่เป็นหน้าที่หลักๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ถือได้ว่าเป็นการเสียสละอย่างมาก ทั้งนี้เราได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องร่างกาย สภาพจิตใจ ของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อจะทำหน้าที่ที่เรารักได้อย่างมีความสุข สำหรับนโยบายที่อยากเห็นคือ นโยบายการอบรมความรู้เรียนรู้เพิ่มเติมให้กับ อสม. เพื่อจะสามารถอธิบายและทำความเข้าใจเพื่อสื่อสารกับประชาชนให้รับรู้อย่างถูกต้องและการเพิ่มเงินเดือนให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป