ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข มอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นในการขับเคลื่อนนโยบายปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ส่วนภาพรวมให้บริการคัดกรองสุขภาพกว่า 8.1 ล้านคน จัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุ 838 แห่ง มอบผ้าอ้อมกว่า 23 ล้านชิ้น แว่นสายตากว่า 2.9 แสนราย และฟันเทียม รากฟันเทียมกว่า 5 หมื่นราย 

วันนี้ (11 ตุลาคม 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานมอบประกาศเกียรติคุณแก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจังหวัด (สสจ.) ที่มีผลงานดีเด่นในการดำเนินงานตามนโยบายของขวัญปีใหม่ “2566 ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายการดูแลผู้สูงอายุ เข้าร่วมงาน 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดำเนินงานเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยให้ทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงานร่วมกัน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการกำหนดนโยบายให้ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบและทั่วถึง ตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาโรค และฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงมอบบริการและวัสดุอุปกรณ์เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงานถือเป็นกลไกสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ ให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลเพื่อการมีสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคมอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน กรมอนามัยจึงได้จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่มีผลงานดีเด่นในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย

นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า ในปี 2566 กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้เป็นปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย โดยมุ่งยกระดับการให้บริการและการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการดำเนินงานในภาพรวมที่ผ่านมา ได้ให้บริการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุแล้วกว่า 8.1 ล้านคน จัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาลทุกระดับ 838 แห่ง พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์จำเป็นในการดำรงชีวิต ได้แก่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่กว่า 23 ล้านชิ้น แว่นสายตากว่า 2.9 แสนราย ฟันเทียม รากฟันเทียมกว่า 5 หมื่นราย และส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกายและจิตใจโดยผู้บริบาลในชุมชน กว่า 5 หมื่นคน และชมรมผู้สูงอายุคุณภาพด้านสุขภาพ 6,147 ชมรม ส่งผลให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ครอบคลุมอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง และเท่าเทียม 

ด้านแพทย์หญิงอัจฉรา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอนามัยพร้อมขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง ดูแลตนเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน สำหรับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลการขับเคลื่อนผลงานผู้สูงอายุดีเด่น แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1.การขับเคลื่อน Blue Book Application สสจ.น่าน สสจ.มหาสารคาม และสสจ.เลย 2.การคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ สสจ.ฉะเชิงเทรา สสจ.สุรินทร์ และสสจ.อุบลราชธานี 3.มอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง (ผ้าอ้อมผู้ใหญ่) สสจ.นครราชสีมา สสจ.นนทบุรี และสสจ.ปทุมธานี 4.มอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง (ฟันเทียม รากฟันเทียม) สสจ.ขอนแก่น สสจ.นครสวรรค์ และสสจ.สุราษฎร์ธานี 5.ขับเคลื่อนชมรมผู้สูงอายุคุณภาพด้านสุขภาพ สสจ.นนทบุรี สสจ.นราธิวาส และสสจ.พัทลุง