ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผอ.กองบริหารทรัพยากรบุคคล เผยรายละเอียดการดำเนินงานกรณีโอนย้าย 222 คน และถ่ายโอนบุคลากรอีก 766 คนไปยัง รพ.สต.ถ่ายโอน หลังที่ประชุม อ.ก.พ.สป.สธ. รับทราบมติ ก.ก.ถ.  พร้อมเปิดแผนการดำเนินการเข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุข รวมทั้งเงิน พ.ต.ส. และเงินประจำตำแหน่ง

จากมติที่ประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 มีมติให้บุคลากรที่อยู่ใน 5 หน่วยงาน(สสจ.สสอ.รพศ. รพท. รพช.) จำนวน 222 คน ในลักษณะของขั้นตอนการโอนปกติ ตามระเบียบ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และกฎ ก.พ. รวมถึงให้บุคลากรถ่ายโอนกลุ่มที่อยู่ใน รพ.สต. ที่ยังไม่ถ่ายโอน แต่ประสงค์ถ่ายโอนไปยัง รพ.สต. ที่ถ่ายโอนไปเมื่อปีงบฯ 2566 จำนวน 766 คน ให้เข้าลักษณะการถ่ายโอนได้นั้น

ขั้นตอนถ่ายโอนและโอนย้ายบุคลากรไปรพ.สต.ถ่ายโอนท้องถิ่น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสรรเสริญ นามพรหม ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ให้ข้อมูลกับทางสำนักข่าวออนไลน์ Hfocus ว่า การประชุม อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2566 ได้รับทราบมติดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และ  พิจารณาเห็นชอบแนวทาง และอนุมัติหลักการในการดำเนินการ เมื่อ ก.ก.ถ.ได้มีการรับรองรายงานการประชุมจากที่ประชุม ก.ก.ถ.ครั้งต่อไป ดังนี้

1. บุคลากรที่ไม่ได้ไปปฏิบัติภารกิจด้านปฐมภูมิ เห็นควรให้โอนตามกฏ ก.พ. โดย อบจ.ต้องแจ้งเลขที่ตำแหน่งที่ประสงค์จะรับโอนบุคลากรให้ เพื่อแจ้งต้นสังกัดพิจารณาการให้โอน และดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และให้มีผล ณ วันที่กระบวนการเสร็จสิ้น  สำหรับบุคลากรที่ไปรายงานตัวแล้วและปัจจุบันปฏิบัติงานอยู่ที่ อบจ. จะมีคำสั่งให้ช่วยราชการ โดยให้มีผล ณ วันที่ 2 ต.ค.2566 กรณีนอกเหนือจากนี้ ให้เป็นไปตามขั้นตอนการโอนปกติ

2. บุคลากรที่ปฏิบัติภารกิจด้านปฐมภูมิ (ปฏิบัติงาน สอน./รพ.สต.) สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีคำสั่งถ่ายโอนบุคลากรไปสังกัด อบจ. โดยให้มีผล ณ วันที่ 2 ต.ค.2566 ต่อไป

ทั้งนี้ จำนวนบุคลากรทั้ง 2 กลุ่ม จะมีการตรวจสอบรายชื่อที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดได้มีคำสั่งแจ้งมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับบัญชีรายชื่อที่กรมส่งสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีหนังสือแจ้งการดำเนินการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ไทม์ไลน์เพิ่มสายงาน "นักสาธารณสุข" ตามบทบาทภารกิจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็น ที่ประชุม อ.ก.พ.สป.สธ. มีการพิจารณาแนวทางการดำเนินการกรณีการเพิ่มสายงานตำแหน่งนักสาธารณสุขในโครงสร้างภารกิจและอัตรากำลังอย่างไรนั้น

นายสรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุม อ.ก.พ.สธ. เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2566 ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอจาก อ.ก.พ.สป.สธ. ในการให้ปรับปรุงเพิ่มสายงานตำแหน่งนักสาธารณสุขตามบทบาทภารกิจในโครงสร้างภารกิจและอัตรากำลังในหน่วยงานสังกัด สป.สธ. และในส่วนของกรมต่างๆ ให้พิจารณาเพิ่มนักสาธารณสุขได้ตามภารกิจ และนำมาเสนอ อกพ.สธ พิจารณาต่อไป หลังจากนี้จะมีการแจ้งแนวทางการย้ายเปลี่ยนสายงานผู้ที่มีคุณสมบัติ และจะเสนอ อ.ก.พ.สธ. เปลี่ยนสายงานตามรอบ คาดว่ามีการพิจารณาเปลี่ยนสายงานรอบแรกในเดือน ธันวาคม 2566

สำหรับ แผนการดำเนินการเข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุข จะประกอบไปด้วย

1. วันที่ 1 - 24 พ.ย.2566 สป. สำรวจผู้มีวุฒิและใบประกอบวิชาชีพ ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข

2. วันที่ 27 พ.ย.2566 อ.ก.พ.สธ. เห็นชอบเพิ่มสายงานในโครงสร้างหน่วยงานสังกัด สป.และให้กรมต่าง ๆ พิจารณาเพิ่มสายงานให้สอดคล้องกับภารกิจ

3. วันที่ 1-8 ธ.ค.2566 สป.ตรวจสอบข้อมูลผู้มีวุฒิและใบประกอบวิชาชีพ เพื่อเสนอ อ.ก.พ.กธ. เปลี่ยนสายงาน

4. วันที่ 20-28 ธ.ค.2566 เสนอ อ.ก.พ.สธ. เปลี่ยนสายงานผู้มีคุณสมบัติเข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุข

5. ประมาณ มกราคม 2567 แจ้งแนวทางการย้ายเปลี่ยนสายงานนักสาธารณสุขให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการ

 

เผยขั้นตอนเงิน พ.ต.ส. และเงินประจำตำแหน่ง 'นักสาธารณสุข'

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการพิจารณาเรื่องเงินเพิ่มเติมสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ (พ.ต.ส.) และเงินประจำตำแหน่งนักสาธารณสุข ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคลให้ข้อมูล ว่า เงินเพิ่มเติมสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ (พ.ต.ส.) ต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์การปฎิบัติหน้าที่การให้บริการทางการแพทย์ ส่วนเงินประจำตำแหน่งนักสาธารณสุข อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอ อ.ก.พ.สธ. พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

โดยขั้นตอนการกำหนดเงินประจำตำแหน่ง ประกอบด้วย

1. อ.ก.พ.สธ. พิจารณาเห็นชอบให้ส่งคำขอไปยังสำนักงาน ก.พ.

2. สำนักงาน ก.พ. ปรับปรุงบัญชีแนบท้ายกฎ ก.พ. ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งฯ

3. อ.ก.พ.ฯ ระบบเปิด และ ก.พ. พิจารณาร่างบัญชีแนบท้ายกฎ ก.พ. ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งฯ

4. สำนักงาน ก.พ. เสนอ อ.ก.พ.ฯ กฎหมายฯ พิจารณาร่างบัญชีแนบท้ายกฎ ก.พ. ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งฯ

5. คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างบัญชีกฎ ก.พ. ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งฯ

6. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอรองนายกรัฐมนตรีลงนามในกฎ ก.พ. ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งฯ

7. สำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา