ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

กรมอนามัย ชวนคนไทยออกกำลังกายตามวัย ต้อนรับปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความแข็งแรงให้ร่างกายสุขภาพดี

วันที่ 1 ม.ค. 2566 นายแพทย์มณเทียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นโอกาสดีที่จะชวนคนไทยปรับวิถีชีวิตและสุขภาพร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้นด้วยการขยับ หรือออกกำลังกาย รวมทั้งช่วงนี้อากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนอาจป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบและปอดบวมได้ กรมอนามัยจึงแนะนำประชาชนออกกำลังกายให้เหมาะสมตาม 4 ช่วงวัยคือ 1) วัยเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ควรเน้นการออกกำลังกายที่สนุกสนาน เพื่อให้เด็กใช้เวลาได้นานไม่เบื่อหน่าย เช่น วิ่งเก็บของ วิ่งเปี้ยว การละเล่นไทยต่างๆ หรือกายบริหารประกอบเพลง เป็นต้น เด็กวัยนี้ ควรเน้นความสนุกมากกว่าการเอาชนะ 2) วัยเด็กและวัยรุ่นอายุ 6-17 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีพัฒนาการที่สมวัย สูงสมส่วน และมีร่างกายแข็งแรง ควรออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 60 นาที (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) สามารถออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เป็นหลัก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดตบ กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล เป็นต้น ร่วมกับ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อ
เช่น ซิทอัพ ดันพื้น แพลงก์ สควอช โหนบาร์ ยกดัมเบล เป็นต้น และการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความอ่อนตัวเช่น จิงโจ้ยืดตัว กายบริหารยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โยคะ เป็นต้น

“สำหรับ 3) วัยทำงาน ช่วงอายุ 18-59 ปี ควรออกกำลังกายให้หลากหลายเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เช่น วิ่งปั่นจักรยาน แบดมินตัน วัยนี้กล้ามเนื้อกระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นต่างๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง จึงควรออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที โดยการเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ เต้นแอโรบิก เป็นต้น และ 4) วัยสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น การเดิน เต้นรำ บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้แข็งแรงควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์ มีการออกกำลังกายฝึกการทรงตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เช่น เต้นบาสโลบ ฟ้อนรำ รำวง รำไท่จี้ชี่กง กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ เป็นการฝึกการทรงตัว เพื่อป้องกันการหกล้ม สิ่งสำคัญของทุกวัย คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น เพื่อให้สุขภาพดี” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว