ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สมาพันธ์เครือข่ายสาธารณสุขฯ เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง ร้องขอความเป็นธรรม หลัง สป.สธ.จัดคนลงตำแหน่ง 'นักสาธารณสุข' เพียง  1,459 คน ตกหล่นนับหมื่นคน 

หลังจากเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2567 ที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 2/2567 มีมติอนุมัติการเปลี่ยนชื่อตำแหน่งในสายงานตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข เป็นตำแหน่ง "นักสาธารณสุข" ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1,459 ตำแหน่งนั้น 

ล่าสุด ดร.วศิน พิพัฒนฉัตร ทนายความจาก สมาพันธ์เครือข่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมไทย (สคสท.) เผยว่า  "ตามที่มีมติ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 มีมติอนุมัติการเปลี่ยนชื่อตำแหน่งในสายงานตำแหน่ง "นักวิชาการสาธารณสุข" เป็นตำแหน่ง "นักสาธารณสุข" ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการหรือชำนาญการ อนุมัติปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งนักสาธารณสุข ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1,459 ตำแหน่ง ที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักสาธารณสุขที่ ก.พ.กำหนดไว้ว่า "เป็นผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์และมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน ที่พร้อมจะเข้าสู่ตำแหน่ง นักสาธารณสุข จำนวนประมาณ 9,760 คน ที่มีสถานะเป็นข้าราชการ แต่ทางกองบริหารทรัพยากรบุคคล

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กลับระบุจำนวนคนที่มีคุณสมบัติครบตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งนักสาธารณสุขที่ ก.พ.กำหนดไว้ ซึ่งสามารถจัดคนเข้าสู่ตำแหน่งได้เพียงแค่ 1,459 คน เท่านั้น คิดเป็น 15% จากจำนวนสมาชิกผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนดังกล่าวที่มีสิทธิเข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุข โดยจัดคนลงตำแหน่งไว้เฉพาะในหน่วยงานบริหารราชการส่วนภูมิภาค สังกัดกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ยกเว้น หน่วยงานบริหารราชการส่วนกลาง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุกแห่ง 

กรณีการจัดคนลงตำแหน่งนักสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข เพียงแค่ 1,459 คน ในครั้งนี้ จึงส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน อย่างชัดเจน ทั้งยังเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบวิชาชีพมากกว่า 26,000 คน ที่รอคอยด้วยความหวังที่กระทรวงสาธารณสุขจะเปลี่ยนตำแหน่งจากเดิมเป็น 'นักสาธารณสุข' ซึ่งเป็นตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ 

อ.ดร.วศินฯ กล่าวว่า เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของตัวผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเป็นข้าราชการในหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จึงมีความจำเป็นยิ่งที่ต้องทำการยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อให้ศาลปกครองตรวจสอบข้อมูลและกระบวนการในการจัดคนเข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุขครั้งนี้ และตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขประกอบการคัดเลือกบุคคลที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีคุณสมบัติเฉพาะให้เข้าสู่ตำแหน่งได้เพียงแค่ 1,459 คน เท่านั้น มีวิธีการ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอย่างไร

เนื่องจากการเข้าสู่ตำแหน่งเป็นการได้มาซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบวิชาชีพพึงได้รับจากการเข้าสู่ตำแหน่ง และบุคลากรที่เหลือที่ยังไม่เข้าสู่ตำแหน่งซึ่งมีสิทธิพึงจะได้เข้าสู่ตำแหน่งต้องเสียประโยชน์จากการไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่ง ทางสมาพันธ์เครือข่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมไทย ในฐานะเป็นองค์กรเครือข่ายที่ดูแลสิทธิผลประโยชน์ของสมาชิกซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนจึงจำเป็นยิ่งต้องเรียกร้องสิทธิที่ผู้ประกอบวิชาชีพพึงได้รับจากกระทรวงสาธารณสุข”

 “ยินดีที่จะต่อสู้เพื่อให้สมาชิกซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนได้รับสิทธิประโยชน์อันพึงได้รับจากการเข้าสู่ตำแหน่ง และขอเชิญชวนสมาชิกผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนที่เสียสิทธิดังกล่าวได้ร่วมลงชื่อเป็นผู้เสียหายในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองในครั้งนี้” อ.ดร.วศินฯ กล่าวทิ้งท้าย