ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เผยแรงงาน 4 รายสมุทรสาครพบ “แคดเมียมในเลือด” ขณะนี้ปลอดภัย แพทย์ให้กลับบ้าน พร้อมติดตามอาการ ย้ำ! ปกติสารจะขับออกทางปัสสาวะ หากไม่มาก ไม่ต้องกังวลไม่ถึงขั้นรุนแรงก่อโรคอิไต อิไต ส่วนอีก 3 พื้นที่พบกากแคดเมียม ยังไม่พบรายงานแคดเมียมปนเปื้อนเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 13 เมษายน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะได้รับมอบหมายจากปลัด สธ. เป็นประธานศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข  หรือ PHEOC กรณีแคดเมียม กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามเฝ้าระวังผู้สัมผัสและพบสารแคดเมียมในร่างกายเกินมาตรฐาน ว่า จากข้อมูลทั้ง 4 จังหวัดที่พบกากแคดเมียม มีตาก สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร ซึ่งกทม.จะมีเจ้าหน้าที่ของกทม.ลงไปตรวจ อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจร่างกายของประชาชนและแรงงานในจ.สมุทรสาคร เมื่อมีการตรวจอย่างละเอียด พบว่ามี 4 รายที่พบสารแคดเมียมในเลือดเกินมาตรฐาน ซึ่งไม่มีอาการอะไร แต่ล่าสุดแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา จากนั้นก็นัดติดตามอาการอย่างต่อเนื่องไปสักระยะ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีเจอสารแคดเมียมในเลือด จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร นพ.สุรโชค กล่าวว่า ต้องดูปริมาณและการคลุกคลีอยู่กับสารดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบถึงขั้นรุนแรง   ซึ่งโดยปกติเมื่อไม่มีอาการ ทางแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้าน และนัดติดตามอาการ เพราะโดยปกติสารเหล่านี้จะขับออกไปทางปัสสาวะได้ กล่าวคือ จะอยู่ในเลือดได้ในช่วงเวลาหนึ่งและจะขับออกทางปัสสาวะ

“ในส่วนของเขตบางซื่อ จะเป็นในส่วนของกรุงเทพมหานครดูแล ซึ่งมีการสุ่มตรวจร่างกายประชาชนในพื้นที่และได้ให้ข้อมูลในที่ประชุม PHEOC เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมาก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 จังหวัดจะมีการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง” นพ.สุรโชค กล่าว

เมื่อถามว่าสารแคดเมียมในเลือด หรือในปัสสาวะ เมื่อพบแล้วทางแพทย์ต้องติดตามระยะเวลาเท่าไหร่จึงจะบอกได้ว่าปลอดภัยแล้ว รองปลัดสธ. กล่าวว่า แต่ละคนจะไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม การพบในเลือดนั้นแสดงว่าเพิ่งได้รับสารไม่นาน และการพบในเลือดต้องดูประกอบอย่างอื่นด้วย ต้องดูประวัติสัมผัส ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปตรวจร่างกายคนหนึ่งโดยไม่มีประวัติสัมผัส คงไม่ได้ เพราะจริงๆ แคดเมียมอยู่ในธรรมชาติก็มี เช่น คนสูบบุหรี่หากมีการตรวจปัสสาวะก็อาจพบสารนี้ได้เช่นกัน ซึ่งพบในอย่างอื่นได้ด้วย จึงต้องดูประวัติด้วย อย่างบางคนเจอในปัสสาวะ แต่ไม่เจอในเลือดก็มี ส่วน 4 คนนี้ที่พบเพราะมีประวัติสัมผัส

ยังไม่ถึงขั้นโรคอิไต อิไต

เมื่อถามว่าต้องมีอาการบ่งชี้แบบไหนว่าอันตราย นพ.สุรโชค กล่าวว่า มีปัญหาเรื่องไต ไตวาย แต่ปกติไม่เคยเจอแบบนี้ การจะเจอขนาดนี้ต้องได้รับสารมาเยอะพอสมควร แต่นี่ไม่ถึงขนาดนั้น

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ายังไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคอิไต อิไต ใช่หรือไม่ นพ.สุรโชค กล่าวว่า ยังไม่ต้องกังวลขนาดนั้น เพราะหากเข้าขั้นโรคอิไต อิไต จะต้องทำงานในเหมือง ในอุตสาหกรรมนั้นแบบไม่ระมัดระวัง ซึ่งในอดีตมี แต่ปัจจุบันโรงงานต่างๆ มีการป้องกันทั้งชุด ทั้งอุปกรณ์หมดแล้ว เพียงแต่หากทำไม่ดีก็อาจพบได้  แต่ไม่ถึงกับสูงจนเกิดอาการเหมือนในอดีต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานโรคอิไต อิไต

นพ.สุรโชค กล่าวย้ำว่า ในส่วนของสธ.ยังคงย้ำ 4 มาตรการรองรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้ง ด้านการเฝ้าระวังผลกระทบ ด้านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ด้านการรักษาพยาบาล และด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับพิษของกากแดคเมียมต่ออวัยวะที่สำคัญ คือ พิษต่อไต โดยจะมีการอักเสบที่ไต ทำให้ไตสูญเสียการทำงาน และอาจทำให้เกิดไตวายเรื้อรังได้ในที่สุด ซึ่งการเกิดความผิดปกติของไตนี้จะเป็นแบบถาวร แม้ไม่ได้รับแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายแล้วไตก็ไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้ ส่วนพิษต่อกระดูก คือ แคดเมียมจะเข้าไปสะสมอยู่ในกระดูก เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนและอาจมีอาการปวดกระดูกอย่างมากโดยเฉพาะที่กระดูกสะโพก ซึ่งเป็นอาการของโรคอิไต – อิไต โดยคนกลุ่มนี้จะมีอาการกระดูกเปราะ แตกหักง่าย