ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มูลนิธิเมาไม่ขับ ทำหนังสือถึงผู้พิพากษาศาลแขวงพระโขนง ให้ลงโทษอดีตผู้บริหารหญิงบริษัทระดับโลก เมาแล้วขับพร้อมขัดขืนตำรวจ ต้องจำคุกไม่รอลงอาญา ตามกฎหมายจราจรใหม่ เหตุเคยถูกโทษลงอาญามาตั้งแต่ปี 65 พร้อมให้กำลังใจรองผู้กำกับ

 

จากกรณีหญิงอายุ 51 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทให้บริการข้อมูลระดับโลก ถูกจับกุมเมาแล้วขับ แล้วต่อสู้ขัดขวางถึงขั้นถีบหน้า พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. ระหว่างนำตัวขึ้นรถส่งดำเนินคดีที่ สน.ประเวศ ที่ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ฝั่งตรงข้ามมัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 00.36 น. จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับเมื่อปี 2565

 

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เมาไม่ขับ ทำหนังสือถึงผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพระโขนง เรื่องขอให้พิจารณาตัดสินลงโทษสถานหนัก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่เมาแล้วขับ โดยระบุถึงกรณีดังกล่าว ว่าหญิงรายนี้เคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ซึ่งศาลได้ให้โอกาสโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี สอดคล้องกับ พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ที่มีการแก้ไขและประกาศบังคับใช้ ในกรณีของเมาแล้วขับซ้ำในระหว่างที่ถูกรอลงอาญา 2 ปี ให้ศาลจำคุกและปรับเสมอ

 

มูลนิธิเมาไม่ขับจึงมีหนังสือมายังท่านผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพระโขนง ขอให้ใช้ดุลพินิจลงโทษหญิงรายนี้ด้วยโทษสถานหนัก ตามบทบัญญัติกฎหมาย คือจำคุกไม่รอลงอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่คิดจะละเมิดกฎหมายเมาไม่ขับ เพื่อความปลอดภัยและลดปัจจัยเสี่ยงบนท้องถนน พร้อมระบุว่า มูลนิธิเมาไม่ขับไม่มีเหตุโกรธเคืองอันใดกับบุคคลดังกล่าวเป็นการส่วนตัว การเรียกร้องครั้งนี้ทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน เพื่อปกป้องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนและพิทักษ์ไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย

 

และยังทำหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุว่า ขอแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจ พ.ต.ท.ดาราธร ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน มีสติในการจับกุมหญิงรายดังกล่าว จนถูกกระทำการลบหลู่เกียรติความเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการใช้เท้าถีบหน้า แต่ พ.ต.ท.ดาราธร ยังคงมีสติไม่ตอบโต้ปฏิบัติหน้าที่สมกับคำว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์