ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับการประสานงานจากสมัชชาสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เสนอให้ สคบ. เป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบการเข้าควบคุมการให้บริการรักษาพยาบาล และการคิดราคาค่ายารักษาโรคของสถานพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานพยาบาลเอกชน ที่ส่วนใหญ่จะคิดอัตราค่ารักษาพยาบาลสูง และไม่มีราคากำหนดเป็นมาตรฐานที่ชัดเจน ซึ่งอาจเข้าข่ายการเอาเปรียบผู้บริโภคได้ เบื้องต้นในเดือน ม.ค.นี้ สคบ. จะเชิญผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข, แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และกรมการค้าภายใน เข้าร่วมหารือ ก่อนสรุปแนวทางควบคุมต่อไป

"ก่อนหน้านี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคมาตลอดเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลแล้วถูกคิดราคาค่าบริการแพงมาก รวมถึงค่ายาที่จ่ายก็มีราคาแพงอีกเช่นกัน โดยจากการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ชี้แจงกลับมาว่า เรื่องราคาค่ายารักษาโรคนั้นไม่ได้มีการตั้งเกณฑ์หรือกำหนดราคามาให้ชัดเจน ดังนั้นเมื่อ สคบ. ได้รับการประสานงานมาแล้ว คงต้องเรียกทุกหน่วยงานเข้ามาคุยกัน โดยจะขอให้กรมการค้าภายใน เข้าไปตรวจสอบราคายา ว่าที่ผ่านมาคิดราคาเหมาะสมหรือไม่ ก่อนให้จัดทำเป็นป้ายแสดงอัตราราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคที่ต้องเจ็บป่วยแล้วมาเจอค่ารักษา ค่ายาแพงซ้ำเติมเข้าไปอีก"

ทั้งนี้นอกเหนือจากการให้กรมการค้าภายในคิดราคาที่เหมาะสมแล้ว การเข้าควบคุมและรับเรื่องร้องเรียนเรื่องดังกล่าว สคบ. จะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ตั้งคณะอนุกรรมการเขามาดูแลเรื่องดังกล่าวเป็นการเฉพาะด้วย โดยมีอำนาจหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค เข้าตรวจสอบสถานพยาบาลที่ร้องเรียน และสรุปรายละเอียดเสนอมายัง สคบ. เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายกระทำผิดต่อผู้บริโภคหรือไม่

นายจิรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมานายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายการทำงานให้กับ สคบ. โดยสั่งการให้ สคบ. ดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเข้มข้น หากพบเห็นการถูกเอาเปรียบ หรือกระทำการสิ่งใดที่เข้าข่ายเอาเปรียบผู้บริโภค ให้ สคบ. เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคโดยทันที โดยในเรื่องของการควบคุมสถานพยาบาลนั้น สคบ. จะรวบรวมรายละเอียดเสนอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรับทราบการดำเนินงานภายในเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ สคบ. ยังได้รับการประสานงานจากนางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ให้ สคบ. ร่วมเป็นหน่วยงานหลักคุ้มครองความปลอดภัยในการใช้บริการรถสาธารณะของผู้บริโภค โดยได้เสนอให้ปี56 เป็นปีรณรงค์ความปลอดภัย ซึ่งจะร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม หลังจากที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลต่าง ๆ มักมีเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกเอาเปรียบจากผู้ให้บริการรถสาธารณะ โดยเฉพาะรถตู้โดยสารสาธารณะที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขับรถเร็วจนทำให้ผู้โดยสารเกิดความหวาดกลัว รวมทั้งการแสดงพฤติกรรมไม่สุภาพในการให้บริการด้วย

"ก่อนหน้านี้ได้รับร้องเรียนหลายเรื่อง เช่นเมื่อปีที่ผ่านมาก็พบปัญหาการให้บริการรถตู้สาธารณะขับขี่อันตราย ขับทำรอบเพื่อรีบกลับมารับผู้โดยสารเที่ยวต่อไป ซึ่งพฤติกรรมอย่างนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภคอย่างชัดเจน และแม้ว่าการดูแลความปลอดภัยหน้าที่หลักจะเป็นกระทรวงคมนาคม แต่ในแง่ของ สคบ. ก็พร้อมร่วมมือประสานการทำงาน"

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 2 มกราคม 2556