ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

น.ส.ปฤษฐพร กิ่งแก้ว นักวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) กล่าวถึงผลการวิจัยเรื่อง การคัดกรองเบาหวานแบบไหนเหมาะที่สุดกับคนไทย เพื่อประเมินต้นทุนประสิทธิผล และต้นทุนอรรถประโยชน์ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลว่า จากการสำรวจสุขภาพประชาชน ไทย พบว่าเบาหวานเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังกว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วย ซึ่งไม่รู้ว่าตนเองป่วยเพราะไม่มีอาการ จน กว่าจะเกิดภาวะโรคแทรกซ้อน เช่น เบาหวานขึ้นจอประสาทตา แผลที่เท้าจากเบาหวาน เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด และโรคไตจากเบาหวาน เป็นต้น โดยพบว่าความเสี่ยงโรคเบาหวาน จะเกิดในผู้หญิงและคนอ้วนมากกว่า รวมทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้เกิดความเสี่ยงได้ด้วย

น.ส.ปฤษฐพรกล่าวว่า การทราบว่าตนเองป่วยด้วยโรคเบาหวานเร็ว จะทำให้ควบคุมการใช้ชีวิต ควบคุมน้ำตาลให้เป็นปกติได้ โดยไม่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้น ทั้งนี้

การคัดกรองโรคเบาหวาน งานวิจัยได้นำ 3 วิธี มาเปรียบเทียบเพื่อหาความคุ้มค่า วิธีที่ 1 การใช้แบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยง การเจาะเลือดปลายนิ้ว หากพบความเสี่ยงจะนำไปตรวจยืนยันอีกครั้ง วิธีที่ 2 ใช้แบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยง และเจาะเลือดที่เส้นเลือดดำเพื่อยืนยันเลย และวิธีที่ 3 การพิจารณาจากปัจจัยเสี่ยง เช่น เรื่องความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน อายุ แล้วเจาะเลือดปลายนิ้ว หากพบความเสี่ยงนำไปตรวจยืนยันอีกครั้ง

น.ส.ปฤษฐพรกล่าวว่า ผลการเปรียบเทียบพบว่า การใช้วิธีที่ 2 เป็นวิธีที่คุ้มค่าที่สุด มีต้นทุนต่ำที่สุด และสามารถเพิ่มปีสุขภาวะดีได้ ขณะที่การเจาะเลือด ที่ปลายนิ้วเพื่อคัดกรอง มักทำให้เกิดผลลวงทั้งบวก และลบขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบได้ งานวิจัยดังกล่าวจะ จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายให้บรรจุการคัดกรองด้วยวิธี ดังกล่าว ในชุดสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้ผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไปได้รับการตรวจทุก 5 ปี ต่อไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 17 มกราคม 2557