ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.เรียกปรับ อภ. ตามสัญญา ฐานขาดส่งยา วันละ 6.5 แสนบาท รวม 10 วัน เป็นเงิน 6.5 ล้านบาท ด้าน อภ. ยินดียอมปรับ เหตุขาดส่งยาตามกำหนดจริง เผยเตรียมปรับบริษัทต่างประเทศเช่นกัน จากการส่งวัตถุดิบช้า

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงกรณีที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ขาดส่งยาต้านไวรัสเอชไอวีงวดประจำเดือนมิถุนายน 2557 ว่า ตามสัญญาถือว่าสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน และ สปสช.ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยัง อภ.เรียบร้อยแล้วว่า ขอสงวนสิทธิตามสัญญาในการเรียกค่าปรับเป็นมูลค่าร้อยละ 0.2 ต่อวัน ตามมูลค่าสัญญาทั้งหมด ในที่นี้มี 3 สัญญา รวมมูลค่า 1,400 ล้านบาท แต่มีการจัดส่งยามาส่วนหนึ่ง ยังเหลือขาดส่งอีกมูลค่า 326 ล้านบาท ส่วนนี้ต้องสงวนสิทธิตามสัญญาในการเรียกค่าปรับตกวันละ 6.5 แสนบาท โดยได้เรียกเก็บย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1-10 กรกฎาคม 2557 รวมเป็นเงิน 6.5 ล้านบาท โดยสัญญานั้นส่วนใหญ่เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี ที่เหลือเป็นยาวัณโรค ทั้งหมดได้ทำหนังสือไปยัง อภ.แล้ว ส่วน อภ.มีเหตุผลว่า ที่ขาดส่งยาเนื่องจากปัญหาวัตถุดิบจากต่างประเทศ อภ.อาจไปเรียกค่าปรับหรือดำเนินการใดๆ กับบริษัทจากต่างประเทศในการจัดส่งวัตถุดิบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในส่วนของ สปสช.ทำตามหน้าที่เท่านั้น

นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวว่า ยอมรับว่าจากการหยุดสายการผลิตไปบางส่วน และการที่บริษัทต่างประเทศจัดส่งวัตถุดิบในการผลิตไม่ทันกำหนดนั้น ทำให้ อภ.ไม่สามารถผลิตยาส่งให้แก่ สปสช.ได้ทันตามกำหนดสัญญา มีมูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท แต่ยายังไม่ได้ขาดแคลน เพราะในสต๊อกยาหลายรายการโดยเฉลี่ยแล้วยังมีอยู่ที่ประมาณ 3-6 เดือน มีเพียงยารายการเดียวที่มีสต๊อกเหลืออยู่เพียง 1 เดือน แต่ขณะนี้วัตถุดิบในการผลิตยาได้เข้ามาแล้ว ไม่มีทางขาดแคลนแน่นอน ส่วนกรณี สปสช.จะปรับ อภ.ฐานส่งยาไม่ทันตามงวด อภ.ก็ยินดีให้ปรับตามสัญญา เพราะส่งไม่ทันจริงๆ อภ.เองก็ต้องเรียกปรับบริษัทต่างประเทศด้วยที่ส่งวัตถุดิบมาไม่ทันตามกำหนด

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 12 กรกฎาคม 2557