ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.แจงกรณีข่าวพบชาวต่างชาติเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุในห้องพักส่วนตัวในจังหวัดภูเก็ต 1 ราย ซึ่งมีประวัติเดินทางมาจากเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2557 ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งทีมจากส่วนกลาง ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการสอบสวนโรค รวมทั้งทำความสะอาดสถานที่ และเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจหาเชื้ออีโบลา ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และรพ.จุฬาลงกรณ์ คาดทราบผลเย็นวันอาทิตย์   

นพ.ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีที่มีข่าวพบชาวต่างชาติเสียชีวิตที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2557 โดยมีประวัติเดินทางออกมาจากเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจสอบประวัติเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิตรายนี้เดินทางถึงท่าอากาศยานภูเก็ตในวันที่ 7 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 ในช่วงกลางวัน ผู้เสียชีวิตเกิดอาการเป็นลมขณะเดินเล่นที่ชายหาดและได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แพทย์ตรวจร่างกายผู้เสียชีวิตพบว่ามีประวัติเป็นโรคหัวใจอยู่เดิม และอาการที่ตรวจได้ยังไม่เข้ากับนิยามการวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา จึงได้ให้การรักษาตามอาการและให้กลับที่พักได้ ต่อมาตำรวจพบเสียชีวิตอยู่ในห้องพักเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2557 และขอความร่วมมือกระทรวงสาธารณสุขร่วมตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน

นพ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากผู้เสียชีวิตเดินทางมาจากเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดโรคอีโบลา กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดผู้เสียชีวิตรายนี้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีโบลา แม้ว่าอาการป่วยครั้งแรกจะไม่เหมือนโรคอีโบลา รวมทั้งองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ประเทศไนจีเรียปลอดจากโรคอีโบลาเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พบผู้ป่วยรายใหม่มาเกิน 42 วันแล้วก็ตาม แต่เพื่อความไม่ประมาท กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการตามมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคอีโบลาทุกประการ โดยส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วของสำนักระบาดวิทยาร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการสอบสวนโรค เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต นอกจากนี้ได้ให้ทีมจากกรมอนามัยเข้าทำความสะอาดห้องพักผู้เสียชีวิต และจะมีการเก็บตัวอย่างคราบเลือดในห้องพัก ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อไวรัสอีโบลาที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และรพ.จุฬาลงกรณ์ คาดว่าจะทราบผลในวันอาทิตย์นี้

นพ.โสภณ  เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ได้เก็บศพผู้เสียชีวิตไว้ที่โรงพยาบาลรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ดูแลตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งดำเนินการเฝ้าระวังผู้สัมผัสทั้งหมดในเบื้องต้นมีประมาณ 25 คน โดยจะติดตามอาการป่วยจนครบ 21 วัน และให้ปิดห้องพักในคอนโดมิเนียมที่ผู้เสียชีวิตพักอาศัย หากผลการตรวจหาเชื้อไวรัสอีโบลาให้ผลลบ จึงจะดำเนินการชันสูตรศพตามขั้นตอนของนิติเวชตามกฎหมาย และกระทรวงสาธารณสุขจะแถลงข่าวความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังคงทำการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรคอีโบลาอย่างต่อเนื่องทุกวัน   ที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ ในระยะที่ผ่านมาได้ติดตามเฝ้าระวังผู้เดินทางรวม 2,415 คน ยังไม่พบรายใดมีอาการโรคอีโบลา