ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ยูนิเซฟหนุนรัฐเดินหน้าเงินดูแลเด็กเล็ก คุ้มครองสวัสดิการพื้นฐานชีวิตแรกเกิด ชี้เป็นการเริ่มต้นที่ดี แจงเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ประสบผลสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จีน ช่วยสนับสนุนโภชนาการใ การในช่วงขวบปีแรก ด้าน ‘สายสุรี’ เผยเพื่อให้กลุ่มคนจนที่สุดเข้าถึงสิทธิ จะให้อสม.สำรวจกลุ่มเป้าหมายและติดตามว่านำเงินไปใช้ประโยชน์ต่อเด็กจริง

นายพิชัย ราชภัณฑารี 

นายพิชัย ราชภัณฑารี ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย กล่าวว่า ยูนิเซฟหรือองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ มีความยินดีกับการที่รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจอนุมัติให้ดำเนินการโครงการเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กปลายปีนี้ ด้วยความช่วยเหลือดังกล่าว ครอบครัวยากจนและเกือบยากจนที่มีบุตรอายุ 0 ถึง 1 ปี จะได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนสำหรับบุตรในช่วงวัยดังกล่าวคนละ 400 บาทต่อเดือน

“นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก เด็กที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นหนึ่งในกลุ่มที่อ่อนแอและเปราะบางที่สุดในสังคม เด็กจำนวนมากยังไม่ได้รับการคุ้มครองทางสังคมใดๆ เลย โครงการเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กจะช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยการให้หลักประกันขั้นต้นในการคุ้มครองเด็กในช่วงขวบปีแรกของชีวิต”

ทั้งนี้ โครงการเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและจีน หลักฐานและประสบการณ์จากการเรียนรู้ที่ผ่านมาทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า การให้เงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กในรูปแบบของเงินสด ช่วยสนับสนุนให้พวกเขาได้มีโภชนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และจะช่วยให้เด็กกลุ่มที่เปราะบางที่สุดในสังคมนี้ได้รับการพัฒนาด้านสาธารณสุขและการศึกษาในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พ่อแม่และผู้ดูแลเด็กจะได้รับเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กที่เกิดตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ประมาณการณ์ว่าจะมีเด็ก 135,000 คนในประเทศไทยได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว

“การดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กเป็นก้าวย่างที่สำคัญอันจะนำไปสู่การปกป้องสิทธิเด็กทุกคนในประเทศไทย ให้ได้หลุดพ้นจากความยากจนและพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพของตน ยูนิเซฟจะงานร่วมกับรัฐบาลและพันธมิตรอื่นๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการของโครงการนี้จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ” นายพิชัยกล่าว

ด้านเว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า นางสายสุรี จุติกุล ที่ปรึกษาด้านสตรี เด็ก เยาวชน การศึกษาและพัฒนาสังคมสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการช่วยเหลือคนยากจนเป็นเรื่องดี แต่การดำเนินการจะต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง การกำหนดให้เฉพาะครอบครัวยากจน ใครคือคนจน คนจนอยู่ที่ไหน ประเทศไทยไม่เคยรู้ จึงเป็นช่องว่างให้เกิดการคอร์รัปชันได้ เพราะที่ผ่านมาโครงการช่วยเหลือคนจน จะเห็นมีแต่คนจนแบบสะดวกที่ได้รับ แต่คนยากจนจริงๆ ไม่ได้ เพราะเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร ดังนั้น จำเป็นต้องอาศัยอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เดินสำรวจรายบ้าน รวมทั้งต้องติดตามตรวจสอบว่าเงินที่ได้รับได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อเด็กเล็กแท้จริง.