ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ทหารบุกยึดเวทีวิพากษ์ร่าง รธน.ที่อำนาจเจริญ หลังทนฟังเสียงประชาชนวิจารณ์ร่าง รธน.ฉบับมีชัยไม่ไหว สั่งให้ยุติการจัดงานภายใน 5 นาที ขณะที่วิทยากรในเวที ย้ำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องดีกว่าฉบับปี 50 อย่าให้เป็นสุสานรวมข้าราชการ ชี้ ร่าง รธน.นี้เป็นมายากลโรงใหญ่ เหตุให้อำนาจรัฐเกินงาม ส่วนประชาชนกลับถูกลิดรอนสิทธิ

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ห้องประชุมบัวชมพู โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ หลังจากที่ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย หรือ WeMove และเครือข่ายสตรีภาคอีสาน ได้จัดเวทีวิพากษ์ "เสียงประชาชนอีสานต่อร่างรัฐธรรมนูญ” ภายหลังดำเนินงานได้ไม่นาน ได้มีนายทหารแต่งชุดลายพราง 4 นาย เข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมงาน พร้อมทั้งมีการถ่ายรูปเก็บบรรยากาศภายในงาน และเก็บภาพถ่ายบนเวที อีกทั้งยังขอถ่ายภาพเดี่ยวของผู้จัดงานทุกท่าน ซึ่งทางผู้จัดงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

จากนั้นเวลาประมาณ13.30 น.กลุ่มนายทหารได้แจ้งให้ผู้จัดงานยกเลิกการจัดงานทันทีให้เวลาเก็บของภายใน 5 นาที โดยอ้างคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ สั่งห้ามการจัดงานหลังจากที่มีคำสั่งให้ยุติ ทางกลุ่มผู้จัดจึงได้ย้ายเวที มาที่โรงแรมรูท 202 และกลุ่มนายทหารได้ติดตามมาและบอกให้ยุติการจัด โดยอ้างคำสั่งของผู้ว่าฯ

นางสุนี ไชยรส ผอ.ศูนย์ส่งเสริมความเสมอภาคและความเป็นธรรม วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้ประสานงาน WeMove กล่าวถึงกรณีการจัดเวทีภาคอีสานว่า ได้มีทหารเข้ามาก็รู้สึกตกใจ จากนั้นสั่งให้พวกเราหยุดเคลื่อนไหวเวทีภายใน 5 นาที ซึ่งขบวนผู้หญิงฯ ก็ได้ทำตามและเมื่อย้ายมาที่โรงแรมรูท 202 ก็ยังได้มีคำสั่งให้เรายุติเวทีการจัดงานอีกครั้ง ซึ่งทางกลุ่มได้เรียกร้องให้นำคำสั่งที่เป็นลายอักษรมายืนยันกับทางกลุ่มว่า เป็นคำสั่งของ ผวจ.อำนาจเจริญจริง

“คณะกรรมการร่างฯ ต้องรับฟังการเคลื่อนไหวของประชาชน เราพยายามทำให้ขบวนผู้หญิงและทั่วประเทศรับรู้เรื่องร่าง รธน. ซึ่งการกระทำของกลุ่มฯ มิได้ขัดต่อกฎหมายอย่างไร ทางขบวนผู้หญิงฯ ไม่ขอยอมรับอำนาจคำสั่ง คงต้องตั้งคำถามกับ คสช. และผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จะทำอย่างไร จะให้จัดแบบลับๆ ล่อๆ หรือเปิดเผย อย่างไรก็ตามทางขบวนผู้หญิงฯ จะมีเวทีเสียงประชาชนกับร่าง รธน.ต่อไป ในอาทิตย์หน้าวันที่ 20-21 ก.พ.ที่จังหวัดพัทลุง” นางสุนี กล่าว

ด้านนางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม กล่าวว่า ในนามขบวนผู้หญิงฯ ขอประณามการกระทำดังกล่าวเนื่องจากเป็นการขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน เป็นการริดรอนสิทธิของประชาชนมากเกินไป ร่าง รธน.ต้องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เราจัดโดยเปิดเผย เราพยายามประสานหลายฝ่าย แต่สุดท้ายถูกสั่งให้ยกเลิกการจัดงาน ซึ่งตนในฐานะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิฯ ในวันที่ 17 ก.พนี้

ทั้งนี้คณะผู้จัดงานได้พยายามติดต่อนายทหารชั้นผู้ใหญ่เพื่อสอบถามเรื่งที่เกิดขึ้น

การจัดเวทีเสวนาวิพากษ์ “ร่างรัฐธรรมนูญ และการมีส่วนร่วมของประชาชน” ที่จัดขึ้นที่ จ.อำนาจเจริญในครั้งนี้ จัดโดยขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove) โครงการสตรีและเยาวชนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาคมติดตามการพัฒนาสตรีในประเทศไทย (ตพส.ไทย) กลุ่มเพื่อนหญิงอำนาจเจริญ และ UN Women โดยภายในงานมีตัวแทนกลุ่มสตรีจากภาคอีสานเข้าร่วมจำนวนมาก

นางบุปผาวรรณ อังคุระษี ประธานศูนย์เพื่อนหญิงอำนาจเจริญ กล่าวว่า ร่าง รธน.ฉบับนี้ยังไม่มีความชัดเจน และไม่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะหมวดสิทธิเสรีภาพ หมวดส่งเสริมความเสมอภาค รวมทั้งเรื่องของงบประมาณที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ และสัดส่วนหญิงชายในการทำงานภาคการเมืองทุกระดับ ในเวลาเดียวกันประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการร่างและสาระสำคัญของร่าง รธน.ฉบับนี้ ถ้าจะให้ประชาชนได้เข้าถึงกฎหมายควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นปัญหาในเรื่องการตีความต่อไป

“หลักการกระจายอำนาจจาก รธน.40 และ 50 ที่ให้จังหวัดที่มีความพร้อมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น สามารถเป็นจังหวัดจัดการตนเองได้นั้น แต่ร่าง รธน.นี้ไม่ระบุไว้ ทั้งนี้จังหวัดอำนาจเจริญมีการขับเคลื่อนและรับฟังความเห็นมาหลายรอบ จนมีธรรมนูญการปกครองตนเองจังหวัดอำนาจเจริญ รอที่จะดำเนินการต่อไป แต่ร่างนี้ไม่เขียนไว้เช่นเดิม ขอเรียกร้องให้นำกลับคืนมา หวังว่าคณะกรรมาธิการร่างฯ ชุดนี้จะฟังเสียงข้อเรียกร้องของประชาชน เพื่อลดกระแสกดดันของสังคม” นางบุปผาวรรณ กล่าว

นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กล่าวว่า เรื่องของสิทธิเสรีภาพไม่ควรจะไปอยู่ในหมวดหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งสิทธิการมีส่วนร่วมของชุมชน ในหลายๆ เรื่องกลับอยู่ผิดที่ ผิดหมวดหมู่ ซึ่งสวนทางกับที่คณะกรรมาธิการร่างฯ บอกว่า ร่าง รธน.ฉบับนี้ดีกว่าเดิม

“ถ้าจะบอกว่าดี สิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคระหว่างเพศ เป็นเรื่องสำคัญมาก มันต้องดีกว่า รธน.ปี 40 และปี 50 ที่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน เรื่องดังกล่าวไม่ควรเป็นหมวดหน้าที่ของรัฐ ร่าง รธน.ฉบับนี้ให้อำนาจรัฐมากไป และลิดรอนสิทธิของประชาชนและชุมชนร่าง รธน.ฉบับนี้จะทำให้เป็นเหมือนสุสานรวมข้าราชการเก่า โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรอิสระ ทั้งนี้เราต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีการแก้ไขเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน และตามข้อเรียกร้องต่างๆ ของประชาชนและผู้หญิงหรือไม่” นางรัชฎาภรณ์ กล่าว

รศ.มาลี พฤกษ์พงศาวลี รองประธานโครงการสตรีและเยาวชนศึกษา และผู้ประสานงานร่วม WeMove กล่าวว่า ช่วงนี้ประชาชนเพิ่งได้เห็นร่างรัฐธรรมนูญ และกำลังวิเคราะห์วิจารณ์กัน แต่ดูเหมือนว่า กรรมการร่าง รธน.ออกมาชี้แจงแบบปกป้องว่าร่างดีหมดทุกเรื่อง ไม่ค่อยมีท่าทีว่าจะรับฟังสักเท่าไร เรื่องนี้ควรระวัง ไม่เช่นนั้นที่ว่ากำลังรับฟังความเห็นอาจจะกลายเป็นมายากลโรงใหญ่ไป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง