ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แกนนำเครือข่ายทันตแพทย์ภาครัฐและเอกชนชี้ หากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังยืนยันให้ขึ้นทะเบียนเครื่องเอ็กซเรย์ในงานทันตกรรม จะยกระดับการเคลื่อนไหว

ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ แกนนำเครือข่ายทันตแพทย์ภาครัฐและเอกชน ชมรมทันตอาสา เปิดเผยว่า กลุ่มเครือข่ายทันตแพทย์ประมาณ 200 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2559 เพื่อแสดงจุดยืนกรณีการบังคับใช้ พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ 2559 ซึ่งกำหนดให้ทันตแพทย์ต้องมีใบอนุญาตครอบครองเครื่องเอ็กซเรย์ และต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี (RSO) ด้วยนั้น จะส่งผลกระทบทางตรงต่อทันตแพทย์ทั้งประเทศ รวมทั้งมีผลกระทบทางอ้อมต่อประชาชนผู้ใช้บริการ

ทพ.เผด็จ กล่าวว่า ทางเครือข่ายได้เรียกร้องให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ทบทวนเรื่องดังกล่าวก่อนจะมีการออกกฎกระทรวง โดยขอให้เป็นกฎกระทรวงที่มีผลกระทบน้อยที่สุด และพร้อมจะแสดงข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าเครื่องเอ็กซเรย์ที่ใช้ในงานทันตกรรม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างไร

“มันไม่เคยเป็นอันตรายเลย ตั้งแต่มีมาในโลก ไม่เคยมีใครฉายเอ็กซเรย์แล้วเกิดโรคหรือตายเร็วเลย อยู่ดีๆ เอาตรงนี้มากำกับได้อย่างไร จะมาบอกว่าเครื่องเอ็กซเรย์ทุกเครื่องในประเทศต้องมาขึ้นทะเบียนที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มันไม่มีเหตุผล” ทพ.เผด็จ

ทั้งนี้ หลังจากยื่นหนังสือที่กระทรวงวิทยาศาสตร์แล้ว เครือข่ายทันตแพทย์ได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเรียกร้องให้ สธ. เป็นปากเป็นเสียงให้แก่ทันตแพทย์อีกทางหนึ่ง

ทพ.เผด็จ กล่าวอีกว่า แม้จะมีการหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และคณะกรรมการทันตแพทยสภาเต็มคณะในวันที่ 13 ต.ค. 2559 นี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า คงจะเป็นเรื่องที่ตกลงกันยาก กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯก็คงยืนยันเหมือนเดิมว่ากฎหมายที่ออกมาเหมาะสมแล้ว ขณะที่ฝั่งทันตแพทย์ยืนยันว่าไม่เหมาะสม แม้จะมีข้อครหาเรื่องการมีเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติบางคนเรียกรับเงินจัดอบรมสอบ RSO แต่เชื่อว่าสุดท้ายกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ก็คงออกมาในลักษณะว่ากฎหมายก็ยังถูกต้องอยู่ เพียงแต่ผู้ปฏิบัติเอาไปทำให้เกิดข้อครหาชอบเอง สุดท้ายก็ยังเดินหน้าให้ขึ้นทะเบียนเครื่องเอ็กซเรย์ในงานทันตกรรมอยู่ดี

“ถ้าเขายังยืนยันคำเดิม เราก็คงยกระดับการเคลื่อนไหว โดยทำให้สังคมได้เห็นว่าเครื่องเอ็กซเรย์ในงานทันตกรรมมันปลอดภัย อยู่ดีๆ เอาตรงนี้มากำกับได้ยังไง และเรายังอยู่ระหว่างการพิจารณาด้วยว่าจะต้องยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ แต่ว่าก็ต้องดูสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ด้วยว่าเหมาะสมแค่ไหน” ทพ.เผด็จ กล่าว