ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค แนะผู้ปกครองนำบุตรหลานไปรับวัคซีนให้ครบ 6 ครั้งตามกำหนด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านทั่วประเทศ ข้อมูลในปี 2560 พบผู้ป่วยสงสัยโรคคอตีบแล้ว 8 ราย เสียชีวิต 1 ราย และคาดว่าแนวโน้มจะพบผู้ป่วยโรคคอตีบในกลุ่มเด็กเพิ่มมากขึ้น พร้อมเชิญชวนประชาชนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบและบาดทะยัก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในงาน “เมืองสุขภาพดี วิถีไทย” ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ถึง 26 ก.พ. นี้

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังเหตุการณ์ของกรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2560 มีรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคคอตีบแล้ว 8 ราย และพบผู้เสียชีวิตโรคคอตีบ 1 ราย เป็นเด็กอายุ 4 ปี 6 เดือน มีประวัติเคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบเพียงครั้งเดียว โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมวัคซีนต่ำ ส่วนสถานการณ์โรคคอตีบ ในปี 2559 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วย 20 ราย เสียชีวิต 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวไทย(ร้อยละ 95) ชาวพม่า (ร้อยละ 5) กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 7-9 ปี รองลงมาคือ 35-44 ปี และ 10-14 ปี ตามลำดับ 

นพ.เจษฎา กล่าวต่อว่า โรคคอตีบ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน เชื้อจะอยู่ในโพรงจมูก ในลำคอผู้ป่วยติดต่อกันง่ายทางไอจาม สำหรับอาการป่วยคือในระยะแรก มีอาการคล้ายหวัด คือมีไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ ต่อมามีแผ่นฝ้าสีขาวอมเทาในลำคอ ในรายที่รุนแรงทางเดินหายใจจะตีบตัน อาจเสียชีวิตได้ อาการแทรกซ้อนที่สำคัญคือ พิษของเชื้อจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจและเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมควบคุมโรคคาดว่า ในปีนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคคอตีบในกลุ่มเด็ก 7-9 ปี เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมของวัคซีนต่ำหรือมีแรงงานย้ายถิ่นจากประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่มชุมชนแออัด กลุ่มที่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ถิ่นทุรกันดารหรือชายขอบ เป็นต้น

นอกจากนี้ ผลสำรวจที่ผ่านมายังพบว่า สาเหตุส่วนใหญ่ที่เด็กไม่ได้รับวัคซีนมาจากผู้ปกครองจำวันนัดรับวัคซีนไม่ได้เมื่อพ้นกำหนดแล้วจึงไม่ได้พาเด็กไป ผู้ปกครองไม่ว่าง ไม่มีเวลาพาไป และในช่วงวันนัดรับวัคซีนเด็กไม่สบายจึงไม่พาไปรับวัคซีน และผู้ปกครองย้ายไปย้ายมา จึงทำให้เด็กพลาดการได้รับวัคซีนตามกำหนด

สำหรับวิธีป้องกันโรคนี้ที่ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ดังนั้นจึงขอแนะนำผู้ปกครองนำบุตรหลานมารับวัคซีนตามกำหนดเวลาที่แพทย์แนะนำเสมอ ในกรณีที่ไม่สามารถมารับวัคซีนได้ตามที่กำหนด ควรรีบมารับทันทีที่ทำได้ ซึ่งปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคคอตีบอยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข โดยเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่วัยเด็ก รวม 6 ครั้ง ครั้งที่ 1, 2 และ 3 วัคซีนรวมคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบ บี (เมื่อเด็กอายุ 2, 4 และ 6 เดือน) ครั้งที่ 4 และ 5 วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (เมื่อเด็กอายุ 1 ปีครึ่ง และ 4 ปี) ครั้งที่ 6 กระตุ้นเมื่อเรียนชั้น ป.6 และประชาชนทุกคนต้องได้รับการกระตุ้นทุก 10 ปี

ทั้งนี้ ผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานไปรับวัคซีนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านทั่วประเทศ ที่สำคัญ หลังจากเข้ารับบริการวัคซีนผู้ปกครองควรเก็บบันทึกการรับวัคซีนของเด็กไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่าเด็กมีการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคใดบ้างแล้ว

“ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบและบาดทะยัก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายในงานเมืองสุขภาพดี วิถีไทย ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพจัดจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 โดยวัคซีนนี้เป็นวัคซีนรวม 2 ชนิด คือโรคคอตีบและบาดทะยัก ทำให้ได้รับการป้องกันทั้งสองโรคในคราวเดียวกัน ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422” นพ.เจษฎา กล่าว