ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข มอบสัมฤทธิบัตรบัณฑิตแพทย์ โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ปีการศึกษา 2560 รุ่นที่ 18 จำนวน 1,000 คน กลับไปปฏิบัติงานในภูมิภาค แก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ของประเทศ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพประชาชน

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม. นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข มอบสัมฤทธิบัตรบัณฑิตแพทย์ที่จบจากโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ปีการศึกษา 2560 โดยมีบัณฑิตแพทย์สำเร็จการศึกษาเข้ารับสัมฤทธิ์บัตร จาก 34 สถาบันการศึกษา ทั้งสิ้น 1,000 คน

นพ.ธวัช กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และทบวงมหาวิทยาลัย ได้ร่วมมือกันผลิตแพทย์ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท เพื่อให้กลับไปปฏิบัติงานในภูมิลำเนา ซึ่งจะทำให้เข้าใจบริบทของพื้นที่ ให้การดูแลสุขภาพประชาชนได้เป็นอย่างดี ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงบริการ และลดการสูญเสียแพทย์ออกจากระบบสาธารณสุข ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมแผนการผลิตแพทย์เพิ่มตามโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ระยะ 2 ปี (พ.ศ.2561-2562) เพื่อรองรับการขยายบริการด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศในอนาคต ที่ต้องการให้มีแพทย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัว เป็นหมอครอบครัวที่รู้จักครอบครัวอย่างแท้จริง ดูแลแบบองค์รวม

นพ.ธวัช กล่าวต่อว่า ในการดำเนินงานจะประสานงานกับศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิกของโรงพยาบาลครอบคลุม 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ โดยร่วมมือกับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ คัดเลือกเด็กนักเรียนจากพื้นที่ชนบท รับทุนกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเรียนแพทย์เป็นเวลา 6 ปี การเรียนการสอนชั้นปีที่ 1-3 เรียนที่มหาวิทยาลัยคู่ความร่วมมือจำนวน 14 แห่ง ส่วนชั้นปีที่ 4-6 เรียนที่ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก จำนวน 37 แห่ง ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังสำเร็จการศึกษามีสัญญาผูกพันให้กลับไปปฏิบัติงานในโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่อย่างน้อย 3 ปีหรือ 12 ปี

ผลการดำเนินงานโครงการในช่วง 22 ปีที่ผ่านมาว่า รับนักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2538 - 2560 จำนวน 21 รุ่น จำนวน 14,237 คน มีบัณฑิตสำเร็จการศึกษาแล้ว 17 รุ่น จำนวน 7,901 คน รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 18 สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2560 จำนวน 1,000 คน จากสถาบันการศึกษา 38 แห่ง ซึ่งบัณฑิตจะกลับไปปฏิบัติงานในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคเหนือ จำนวน 106 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 336 คน ภาคกลาง 236 คน ภาคตะวันออก 96 ภาคตะวันตก 41 คน และภาคใต้ 185 คน