ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานสหภาพพยาบาลชี้​ ระเบียบกระทรวงการคลังให้เลี่ยงจ้างลูกจ้างด้วยเงินนอกงบประมาณสร้างผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขอย่างหนัก​ หากมีคนลาออกแล้วต้องรอกระทรวงการคลังอนุมัติจะไม่ทันต่อการให้บริการจนส่งผลต่อประชาชน​ อีกทั้งเงื่อนไขการจ้างสุดโหดจนไม่มีใครสมัครทำงานกับภาครัฐ

เมื่อวันที่ 23 น.ส.มัลลิการ์​ ลุนจักร์ ประธานสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย​ ให้ความเห็นถึงการออกระเบียบกระทรวงการคลังฉบับใหม่ที่มีเนื้อหาให้หลีกเลี่ยงการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างด้วยเงินนอกงบประมาณว่า​ จะส่งผลกระทบอย่างมากเพราะกระทรวงสาธารณสุขทำงานกับชีวิตคน​ ในแต่ละโรงพยาบาล​ สัดส่วนลูกจ้างมีมากกว่าข้าราชการ​ ดังนั้นหากพยาบาลที่เป็นลูกจ้าง​หรือลูกจ้างอื่นๆ เช่น​พนักงานเปลหรือคนขับรถ​ลาออก​ โรงพยาบาลก็ต้องจ้างคนที่มาให้บริการอย่างรวดเร็ว​เพื่อไม่ให้กระทบกับการให้บริการ​

ดังนั้นถ้าต้องรอกระทรวงการคลังอนุมัติ​ซึ่งไม่รู้ว่านานเท่าใด​ ถ้านานเป็นปีคนไข้จะเป็นอย่างไร​ กระทรววการคลังรับผิดชอบไหวไหม​โรงพยาบาลชุมชน​ 800 กว่าแห่ง​ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอีก​หมื่นกว่าแห่ง​ โรงพยาบาลจังหวัดอีก​ 80 กว่าแห่ง​ ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในระบบสาธารณสุข

นอกจากนี้ระเบียบนี้ยังไม่จูงใจให้คนมาทำงาน​ ขนาดทุกวันนี้ก็ลาออกกันอยู่แล้ว​ ถ้าบอกว่าจ้างที่ค่าแรงขั้นต่ำและไม่มีการขึ้นเงินเดือน​ คิดว่าคงไม่มีใครที่ทนทำงานกับภาครัฐได้​ คนที่ทำงานใช้ทุน​ 3​ ปีแล้วไม่ได้บรรจุก็คงไม่อยู่ในระบบรัฐ

"อย่างพยาบาลห้องฉุกเฉินลาออก​ แค่ประกาศรับสมัครทุกวันนี้ก็ยังหาคนยากแล้ว​ ถ้าออกประกาศมาแบบนี้อีก ไม่ให้เขามีอนาคต​คงไม่มีใครเข้ามาสมัครหรอก" น.ส.มัลลิการ์​ กล่าว

ขณะเดียวกัน​ การออกประกาศเช่นนี้ก็เหมือนเป็นการเร่งลูกจ้างที่มีอยู่แล้วให้ลาออกเร็วมากขึ้น​ เพราะหากมีคนลาออกแล้วไม่มีคนใหม่เข้ามาช่วย​ ภาระงานก็หนักขึ้น​และอาจทำให้ลาออกเพิ่ม​ เอกชนก็สบายเพราะคนเหล่านี้ก็ลาออกไปภาคเอกชนหมด