ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมช.สาธารณสุข ส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือส่งตำรวจป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทใน รพ.ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ พร้อมสั่งการทุกจังหวัด แจ้งความดำเนินคดีทุกราย ไม่มีข้อยกเว้น เผยรายงาน 7 ปี ตั้งแต่ปี 55-62 ความรุนแรงใน รพ.สังกัด สธ. 64 ครั้ง แนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนส์ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้บริหารโรงพยาบาล (รพ.) ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั่วประเทศ เพื่อรับฟังปัญหา และมีข้อสั่งการเรื่องการป้องกัน ระงับเหตุก่อความความรุนแรงในรพ. โดยเฉพาะ รพ.ที่เกิดเหตุคนยกพวกตีกันในปี 2562 ซึ่งพบว่ามีถึง 6 เหตุการณ์ คือ รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รพ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รพ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา รพ.ประทาย จ.นครราชสีมา รพ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ และ ล่าสุด คือที่รพ.อ่างทอง จังหวัดอ่างทอง

ทั้งนี้ ผู้บริหาร รพ.อ่างทอง ได้รายงานว่าได้แจ้งความเอาผิดฐานบุกรุกสถานที่ราชการไปแล้ว ซึ่งศาลไม่ให้ประกันตัว และกำลังเตรียมเอาผิดกรณีทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย เนื่องจากเหตุการณ์ยกพวกตีกันใน รพ.อ่างทอง เป็นเหตุให้เครื่องมอนิเตอร์อาการผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินได้รับความเสียหาย เครื่องทำน้ำเย็นเสียหาย ประตูเสียหาย รวมถึงไม้กวาดที่คู่กรณีหักด้ามมาต่อสู้กัน ส่วนที่ รพ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ทางอัยการสั่งฟ้องผู้ก่อเหตุแล้ว ขณะที่ รพ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา รพ.ประทาย จ.นครราชสีมา อัยการกำลังจะสั่งฟ้อง ส่วนที่ รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าการยกพวกตีกันทำให้พระพุทธรูปที่ทางรพ.จัดเตรียมไว้ให้ผู้ป่วยและญาติได้สักการะขอพร ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้มีการตัดสินคดีแล้วให้จำคุกผู้ก่อเหตุสูงสุด 10 เดือน

นายสาธิต กล่าวว่า ในปี 2562 มีการก่อความรุนแรงใน รพ.หลายครั้ง เฉพาะเหตุยกพวกตีกันมีถึง 6 ครั้ง ซึ่งในส่วนการดำเนินคดีนั้นตนเข้าใจดีว่าอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ซึ่งในทางกฎหมายมีการให้รอลงอาญากรณีผู้ที่ไม่เคยทำผิดมาก่อน แต่อยากขอความกรุณาในกรณีก่อความรุนแรงใน รพ.ให้มีการลงโทษสูงสุด ไม่ใช่แค่การรอลงอาญา เพื่อให้เป็นการหลาบจำ และไม่มากระทำความรุนแรงใน รพ.อีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ตนได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือให้มีข้อสั่งการไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในจำนวนที่เพียงพอต่อการระงับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดความรุนแรงใน รพ.ในอนาคต เมื่อได้รับการแจ้งจากทาง รพ. ซึ่งไม่ใช่แค่ 2-3 นาย เพราะที่ผ่านมาพบว่าไม่สามารถระงับเหตุการณ์ได้

“จากการประชุมกันวันนี้ได้รับรายงานเรื่องความพร้อมในการป้องกันเหตุของโรงพบยาบาล จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะช่วยลดปัญหาความรุนแรงใน รพ.ได้มาก ถ้าเกิดก็เกิดน้อยที่สุด เสียหายน้อยที่สุด แต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้อยากให้ รพ.เตรียมความให้มากที่สุด เพราะเป็นเทศกาลที่มีคนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เยอะ โดยเฉพาะพื้นที่อีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง อย่างที่นครราชสีมา ปีนี้เกิดเหตุขึ้นถึง 2 ครั้ง” นายสาธิต กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเอกสารประกอบการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนส์ มีการรายงานย้อนหลัง 7 ปี ตั้งแต่ปี 2555 – 2562 มีความรุนแรงเกิดขึ้นในสถานพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวม 64 เหตุการณ์ แบ่งเป็นทะเลาะวิวาท 29 เหตุการณ์ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ 22 เหตุการณ์ ทำลายทรัพย์สิน 4 เหตุการณ์ ก่อความไม่สงบ 1 เหตุการณ์ กระโดดตึก 6 เหตุการณ์ พนักงานเปลทะเลาะกับผู้ป่วย 1 เหตุการณ์ ญาติคนไข้ลวนลามผู้ป่วย 1 เหตุการณ์ จากเหตุการณ์ทั้งหมดส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 58 ราย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อแยกเหตุการณ์ความรุนแรงใน รพ.ทุกกรณี ออกเป็นรายปีแล้วพบว่า ปี 2555 เกิดเหตุการณ์รุนแรง 1 ครั้ง, ปี 2557 เกิดเหตุ 1 ครั้ง, ปี 2558 เกิดเหตุ 6 ครั้ง โดยในจำนวนนี้ เป็นการยกพวกตีกันที่ รพ.ตราด จ.ตราด 1 ครั้ง และยกพวกตีกันที่ รพ.สิรินธร กรุงเทพฯ 1 ครั้ง, ปี 2559 เกิดเหตุ 4 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นการบุกทำร้ายคู่กรณี 1 ครั้ง ที่ รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ 1 ครั้ง ปี 2560 เกิดเหตุ 11 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นเหตุทะเลาะวิวาทใน รพ. 3 ครั้ง ที่ รพ.ดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ รพ.กระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ รพ.อุดรธานี, ปี 2561 เกิดเหตุ 15 ครั้ง ในจำนวนนี้ เป็นการทะเลาะวิวาทใน รพ. 1 ครั้ง คือที่ รพ.นาแก จ.นครพนม และ ปี 2562 เกิดเหตุ 26 ครั้ง ตามรายงานข่าวข้างต้น ซึ่งในเอกสารได้มีการสรุปด้วยว่าสถานการณ์ความรุนแรงใน รพ.มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง