ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.พบผู้ป่วยโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่ม 6 ราย เป็นคนไทย 4 ราย นักท่องเที่ยวจีน 2 ราย ชี้ คนไทย 2 ราย กลับจากเที่ยวญี่ปุ่นก็มีอาการ ย้ำ 5 รายอาการดีขึ้นแล้ว แต่ 1 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หลังพบเป็นวัณโรคร่วม พบประวัติเป็นเคสเฝ้าระวัง เหตุรับนักท่องเที่ยวจีนป่วย แพทย์คิดหนักจ่ายยาต้านไวรัสได้หรือไม่ หวั่นยาตีกัน

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 15.00 น. ที่กรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงข่าวสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า จากการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ระบาดวิทยา และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) พบว่าล่าสุดประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มอีก 6 ราย เป็นชาวไทย 4 ราย ซึ่ง 2 รายเป็นสามีภรรยากันที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกลับมาแล้วมีอาการป่วย อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลจากทางประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติม ส่วนผู้ป่วยอีก 2 รายคนขับรถรับจ้างไม่ประจำทาง ซึ่งรับนักท่องเที่ยวชาวจีน และอีก 2 รายเป็นนักท่องเที่ยวจีนเอง

ทั้งนี้ในจำนวนผู้ป่วย 6 ราย มี 5 ราย อาการดีขึ้นรอผลตรวจเป็นลบก่อนจึงจะให้ออกจาก รพ.ได้ ส่วนอีก 1 ราย ล่าสุดได้รับส่งต่อจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มายังสถาบันบำราศนราดูรเมื่อวันที่ 3 ก.พ. เป็นชายไทย ที่ขับรถรับนักท่องเที่ยวจีน โดยในวันแรกรับผู้ป่วยรายนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว เมื่อตรวจร่างกายยังพบว่าเป็นโรควัณโรคด้วย แล้วมาพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ร่วม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายใหม่เหล่านี้แล้ว ยังไม่พบความผิดปกติ ดังนั้นสรุปว่าเดิมประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 19 ราย รวมกับผู้ป่วยที่ประกาศเพิ่มวันนี้ (4 ก.พ.) อีก 6 ราย รวมเป็น 25 ราย ในจำนวนนี้รักษาหาย กลับบ้านแล้ว 8 ราย เหลือยังรักษาตัวใน รพ.อีก 17 ราย

“ตามความเห็นผู้เชี่ยวชาญ กรณีคนไทยที่ติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีประวัติว่ากลับมาจากประเทศญี่ปุ่น ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าติดเชื้อมาจากที่ญี่ปุ่นหรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีคนเกาหลีติดเชื้อไวรัสโคโรนาฯ และมีประวัติกลับจากท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าติดเชื้อในประเทศไทย หรือในเกาหลีเอง เพราะที่เกาหลีใต้ก็พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเหมือนกัน” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

นพ.ทวี กล่าวว่า ในรายที่ใส่ท่อช่วยหายใจนั้นอายุประมาณ 70 ปี มี 2 โรครุมเร้าซึ่งจะต้องดูแลต่อไป โดยในส่วนของวัณโรคนั้นดูแลได้ แต่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ฯ นั้น กำลังอยู่ในช่วงของการพิจารณาว่าจะให้ยาต้านไวรัสเสริมได้หรือไม่ เนื่องจากรายนี้ได้รับยารักษาวัณโรคอยู่แล้ว ถ้าได้รับยาต้านไวรัสอีกจะทำให้ยาตีกันหรือไม่ ดังนั้นจึงจะต้องคิดกันให้หนัก และรอบคอบ